วันนี้ (21 ก.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายนโยบายรัฐบาลกำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ใช้เวลา 2 วันเต็ม แถลงนโยบายและอภิปรายโดยฝ่ายค้าน ซึ่งศึกนี้แทบไม่ต่างซ้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
แกนนำฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย เตรียมจัดหนักวาง ส.ส. 50 คน อภิปรายนโยบายรัฐบาลทุกแง่มุม แบ่ง 6 กลุ่มนโยบายครอบคลุมเศรษฐกิจ สังคม การเมือง แต่ที่เป็นเป้าสำคัญคือการโยงไปยังกลุ่มบุคคล โดยเฉพาะกลุ่ม 3 ป. "ป.ประยุทธ์ -ป.ประวิตร -ป.ป๊อก อนุพงษ์" รวมถึงกลุ่มรัฐมนตรีที่มีคดีติดตัวและอดีตแกนนำ กปปส. มุ่งไปที่ประเด็นการสืบทอดอำนาจและแผลเก่าที่ส่งมาจากรัฐบาลที่แล้ว
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรง
พรรคเพื่อไทยวางตัว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรง และนายอดิศร เพียงเกษ 2 อดีต ส.ส.รุ่นใหญ่ เป็นติวเตอร์และติวเข้ม ส.ส.รุ่นใหม่-รุ่นกลางลงสนามอภิปรายนโยบายรัฐบาล ไม่เฉพาะความเข้มข้นของเนื้อหา แต่ท่าทีและลีลาก็มีส่วนสำคัญในการโน้มน้าวประชาชน
นายอดิศร รับบทหนักเป็นติวเตอร์ด้านกฎหมายและการเมือง มั่นใจ ส.ส.รุ่นใหม่ อภิปรายได้เข้มข้นเพราะส่วนใหญ่มีข้อมูลแน่นอยู่แล้ว แต่อาจจะต้องเพิ่มท่วงท่าลีลา ไม่ต่างจากการตีกอล์ฟที่ต้องฝึกวงสวิงพร้อมกับการวางแผน ที่สำคัญการอภิปรายต้องไม่เยิ่นเย่อ เพราะทุกนาทีในสภาฯ มีค่า
ขณะที่นายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า ไม่แปลกที่การอภิปรายนโยบายครั้งนี้จะพุ่งเป้าไปที่บุคคล เพราะนโยบายส่วนหนึ่งเป็นนโยบายที่ต่อยอดจากรัฐบาลเดิม และกลุ่มคนที่เป็นรัฐมนตรีก็เป็นคนชุดเดิม โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกลุ่มอดีตรัฐมนตรี ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีประเด็นสืบทอดอำนาจ
เมื่อก่อนโจมตีไปที่นโยบายเป็นหลัก แต่รอบนี้เขามองว่าสืบทอดอำนาจ นายกฯ ก็เป็นคนเดิม ดังนั้นตัวบุคคลเลยเกี่ยวข้องกับนโยบาย
นายสติธร ธนานิธิโชติ
การอภิปรายรอบนี้จึงไม่ต่างจากการซ้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจที่รัฐมนตรีกลายเป็นเป้าล่อมากกว่าตัวนโยบาย ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ตั้งรับอย่างเดียว ยังจัดติว ส.ส.เตรียมโต้แย้งฝ่ายค้านนัดสัมมนาที่วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา 2 วันเต็ม เริ่มจากวันนี้ (21 ก.ค.) และวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) โดยมีนายวิรัช รัตนเศรษฐ์ ประธานวิปรัฐบาล และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะ ส.ส.รุ่นเก่าเป็นติวเตอร์
แต่ไฮไลท์อยู่ที่พี่ใหญ่ของรัฐบาลอาจร่วมงานนี้หลัง พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันไม่ร่วมสัมมนา แต่อาจส่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาแทน เพื่อให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลได้ทำหน้าที่เป็น "องครักษ์พิทักษ์ลุงตู่" ในศึกสภาครั้งนี้