วันนี้ (25 ก.ค.2562) ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาคดี กบฏ กปปส. คดีแรก หมายเลขดำ อ.1191/2557 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 57 ปี นายสกลธี ภัททิยกุล อายุ 42 ปี นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อายุ 68 ปี และนายเสรี วงษ์มณฑา อายุ 70 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ,อั้งยี่,ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ,เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก,ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล,ร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113,116,117,209,210,215, 362, 364,365 และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง,ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต. ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มา ซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 76,152 รวม 8 ข้อหา โดยจำเลยทั้ง 4 รายให้การปฏิเสธ พร้อมตั้งทนายความสู้คดี ขณะที่จำเลยทั้งสี่ได้รับการปล่อยชั่วคราวชั้นพิจารณานั้น
ล่าสุด ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์-จำเลย นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานที่อัยการโจทก์นำสืบมารับฟังได้เพียงว่าจำเลยทั้ง 4 ราย ได้เข้าร่วมชุมนุม กับกปปส. แต่ไม่ได้เป็นแกนนำที่สั่งการผู้ชุมนุมหรือขึ้นปราศรัยสั่งการให้กระทำการรุนแรง โดยการชุมนุมของ กปปส.ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยไว้แล้ว ในคำวินิจฉัยที่ 59/2556 ว่าการชุมนุมของ กปปส. สืบเนื่องมาจากการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 63 ซึ่งสืบเนื่องจากเหตุที่คัดค้านการออกร่างกฎหมายนิรโทษกรรมและไม่พอใจการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมา จึงยังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยทั้งสี่ ได้กระทำความผิดตามฟ้องทั้ง 8 ข้อหา จึงพิพากษายกฟ้อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
4 แกนนำ กปปส.ฟังคำพิพาษาศาลชั้นต้น “สุเทพ” มาให้กำลังใจ