วันนี้ (27 เม.ย.2568) เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 จ.นครศรีธรรมราช เริ่มนับคะแนนหลังปิดหีบในเวลา 17.00 น. ซึ่งระหว่างการนับคะแนนมีประชาชนจำนวนมากมารอลุ้น ขณะที่หลายหน่วยเลือกตั้งนับคะแนนเสร็จสิ้นแล้ว
ทั้งนี้ คะแนนเลือกตั้งซ่อมระหว่างนายไสว เลื่องสีนิล จากพรรคภูมิใจไทย กับนายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ จากพรรคกล้าธรรม ยังสูสี ส่วนนายณัฐกิตต์ อยู่ด้วง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน มีคะแนนตามมาเป็นอันดับ 3
ขณะที่บรรดาสมาชิกพรรคการเมืองและผู้สมัครตั้งวอร์รูมหลังปิดหีบการเลือกตั้งซ่อม เช่น พรรคกล้าธรรม เพื่อติดตามผลการนับคะแนนอย่างใกล้ชิด โดยบางส่วนส่งตัวแทนไปร่วมสังเกตการณ์การนับคะแนนในหน่วยเลือกตั้งที่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากและอาจเป็นตัวชี้วัดชัยชนะ โดยเฉพาะใน อ.ฉวาง ที่มี 10 ตำบล มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 50,000 คนจากจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมดกว่า 100,000 คนใน 4 อำเภอ
เวลาประมาณ 19.30 น. ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานผลการนับคะแนน พบว่า นายก้องเกียรติ จากพรรคกล้าธรรม มีคะแนนนำ 33,235 คะแนน, นายไสว จากพรรคภูมิใจไทย ได้ 22,481 คะแนน ส่วนนายณัฐกิตต์ พรรคประชาชน ได้ 5,799 คะแนน
ต่อมาเวลา 20.30 น. นายก้องเกียรติ ได้คะแนน 37,294 คะแนน ทิ้งห่างนายไสว ที่ได้ 26,983 คะแนน
กระทั่งเวลา 20.50 น. ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานว่าการนับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วทุกเขต โดยผู้สมัครได้คะแนนเสียงดังนี้
1. นายไสว เลื่องสีนิล พรรคภูมิใจไทย ได้ 28,417 คะแนน
2. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 4,190 คะแนน
3. นายณัฐกิตติ์ อยู่ด้วง พรรคประชาชน ได้ 6,811 คะแนน
4. ว่าที่ พ.ต.กวี ไกรทอง พรรคพร้อม ได้ 238 คะแนน
5. นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ พรรคกล้าธรรม ได้ 38,680 คะแนน
6. นายพิษณุ รสมาลี พรรคทางเลือกใหม่ ได้ 194 คะแนน
ส่งผลให้ นายก้องเกียรติ ผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรม ชนะการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ
ทั้งนี้ การเลือกตั้ง สส.นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 แทนตำแหน่งที่ว่าง มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 233 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 117,117 คน มาใช้สิทธิ 81,758 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 69.45
ก่อนหน้านี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตระเวนลงพื้นที่ไปตามหน่วยเลือกตั้ง 35 หน่วย เพื่อสังเกตการณ์ โดยระบุว่าพอใจกับการจัดการเลือกตั้ง แม้จะประเมินเบื้องต้นว่าตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิในครั้งนี้ อาจไม่เท่าการเลือกตั้งครั้งก่อนที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิมากถึงร้อยละ 76.52 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ เพราะฝนตกหนัก อีกทั้งขณะนี้ก็มีการเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างการเลือกตั้งเทศบาล อาจทำให้ประชาชนรู้สึกเบื่อหน่าย
ส่วนการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ขณะนี้ปรากฏข่าวว่าในบางพื้นที่ เช่น อ.พิปูน มีการซื้อเสียงแบบโปรยคนละ 300 บาท ส่วนที่ ต.ห้วยปริก อ.ฉวาง ก็มีการซื้อเสียงหัวละ 500 หัวคะแนนได้ 100 บาท ซึ่งคาดว่าจะมีการยื่นคำร้องเรื่องการซื้อเสียงเร็วๆ นี้
ประธาน กกต. กล่าวอีกว่า ในการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ตามกฎหมายกำหนดให้ประกาศไม่เกิน 60 วัน แต่หากตรวจสอบเบื้องต้นและมีเหตุอันควรเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปโดยเที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย ก็สามารถประกาศได้เร็วกว่า 60 วัน แต่ก็ไม่ได้ตัดอำนาจหน้าที่ของ กกต.ในการตรวจสอบ หากมีการยื่นคำร้องเรื่องการซื้อเสียงหรือมีหลักฐานที่ตรวจสอบได้ชัดเจน
อ่านข่าว
ปชช.ใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 นครศรีธรรมราช