วันนี้ (1 ส.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ องค์การเภสัชกรรมจะทยอยส่งมอบสารสกัดน้ำมันกัญชาให้กับกระทรวงสาธารณสุขประมาณ 4,000-5,000 ขวดก่อน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ล็อตแรกภายใต้การปลูกจากต้นกัญชา 140 ต้น จากนั้นจะทยอยส่งมอบให้ครบตามแผนที่วางไว้ว่าจะผลิตให้ได้ 1 หมื่นขวด เพื่อกระจายไปยังเขตสุขภาพ ทั้ง 12 เขต ซึ่งแต่ละเขตจะมีโรงพยาบาลนำร่องเพียง 1 แห่ง โดยโรงพยาบาลนั้นจะต้องได้รับอนุญาตตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.กำหนด
ส่วนนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ที่ระบุว่าภายใน 5-6 เดือนนี้ ต้องได้สารสกัดน้ำมันกัญชาจำนวน 1 ล้านขวดนั้น นพ.โสภณ ระบุว่าจะเร่งหาวัตถุดิบที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย มาวิเคราะห์ เพื่อนำมาสกัด แต่จะได้ปริมาณมากน้อยแค่ไหนต้องประเมินอีกครั้ง ทั้งนี้ต้องติดตามดูว่าหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตปลูก-ผลิตกัญชา จะได้ผลผลิตน้ำมันกัญชารวมกันได้ตามเป้าที่วางไว้หรือไม่
ขณะนี้ อภ.อยู่ระหว่างการเตรียมปลูกกัญชาในรอบที่ 2 ซึ่งจะนำองค์ความรู้ และบทเรียนจากการปลูกในรอบแรกมาพัฒนาการปลูกให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ในจำนวนที่ใกล้เคียงกับการปลูกในรอบแรก
ขณะที่ นพ.ปัตพงษ์ เกียรติสมบูรณ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ผู้ป่วยไปใช้กัญชาใต้ดินรักษาโรค เป็นเพราะยาไม่เพียงพอรวมทั้งคุณภาพการรักษาและยังประเมินว่าหากนำกัญชามาใช้รักษาโรคจะมีผู้ป่วย 14 ล้านคนที่จะได้รับประประโยชน์ แม้จะไม่หายขาดจากโรคแต่ก็ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นและเชื่อว่าแพทย์จะมีความมั่นใจมากขึ้นเพราะผ่านการอบรมให้สามารถจ่ายยากัญชาได้ตามกฎหมาย นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นยังมีแผนการวิจัยกัญชารักษาโรคอย่างครบวงจร และจะพัฒนาเพื่อใช้ในสัตว์ด้วย หลังจากมีงานวิจัยในต่างประเทศพบว่า กัญชามีสรรพคุณในการรักษาโรคมะเร็งในสัตว์ได้
นางรสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิสุขภาพไทย ตั้งคำถามถึงองค์การเภสัชกรรมและรมว.สาธารณสุขถึงการสั่งเพิ่มการผลิตสารสกัดน้ำมันกัญชา 1 ล้านขวดให้ภารกิจอะไร จะให้โรงพยาบาลสั่งจ่ายให้กับผู้ป่วยทั่วประเทศ รวมถึงผู้ป่วยจำนวน 4 หมื่นคนของนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญตามที่รมว.สาธารณสุขรับปากไว้หรือไม่ ในระหว่างที่นายเดชา ไม่สามารถแจกน้ำมันกัญชาได้
นางรสนา กล่าวอีกว่า การเพิ่มการผลิตต้องถามว่ากระทรวงสาธารณสุขจะอนุญาตให้หน่วยงานต่างๆปลูกกัญชาเองหรือไม่ หรือว่าจะนำเข้าสารซีบีดี หรือยากัญชาจากต่างประเทศหรือไม่ เพราะขณะนี้ 4 หน่วยงานที่ อย.อนุญาตให้ปลูกและผลิตกัญชาได้ มีกำลังการผลิตไม่เพียงพอภายใน 5-6 เดือนนี้