วันนี้(2 ส.ค.2562) เวทีเสวนา “ มุมมองหลากมิติ ความคิดของการกำหนดทิศทางกัญชาทางการแพทย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ปาฐกถาพิเศษกัญชาทางการแพทย์ ระบุว่า จะพยายามแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากสารสกัดกัญชา ในวงกว้างมากขึ้น แต่การเปิดเสรีกัญชาเพื่อใช้สันทนาการ คงยังทำไม่ได้ เพราะเชื่อว่า ประชาคมโลก สังคมไทยยังไม่ยอมรับ
ส่วนการเปิดให้ปลูกกัญชาบ้านละ 6 ต้น จะต้องเกิดขึ้นในอนาคตแน่นอน เมื่อคนส่วนใหญ่มีความเข้าใจ เข้าถึง และมีวินัยในการใช้กัญชาทางการแพทย์แล้ว รวมทั้ง จะต้องให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำระบบตรวจสอบในการปลูกกัญชาทางการแพทย์ด้วย โดยให้เจ้าหน้าที่สุ่มตรวจ มาตรฐานในการปลูกกัญชา
ทั้งนี้ โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธาณสุข ที่ได้รับอนุญาตในการสั่งจ่ายกัญชาทางการแพทย์ และ เตรียมใช้กัญชาทางการแพทย์ กับผู้ป่วย หากผลการรักษาเป็นบวก ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และไม่พบการเสียชีวิต ก็ถือเป็นข้อมูลหลักฐานสำคัญ ที่จะทำให้การพัฒนากัญชาทางการแพทย์ เป็นไปอย่างรวดเร็วและขยายวงกว้างมากขึ้น
นายอนุทินระบุว่า จะผลักดันการแก้ไขกฎหมายยาเสพติดให้โทษ ปี 2562 ที่ให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เนื่องจากเป็นนโยบายที่ถูกบรรรจุไว้เป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล ดังนั้นทุกส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันเดินหน้า ทำให้สำเร็จตามนโยบายที่วางไว้
รมว.สาธารณสุขกล่าวว่า ไม่คิดเอื้อประโยชน์ให้นักลงทุนต่างชาติ ทุกอย่างต้องเอื้อประโยชน์ให้กับคนไทยเท่านั้น
ส่วนปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบหลัก ตอนนี้ได้ให้องค์การเภสัชกรรมไปหาแนวทาง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการผลิตสารสกัดน้ำมันกัญชาโดย ตั้งเป้า 5 ล้านซีซี หรือ 1 ล้านขวด ภายใน 5-6 เดือน
ขณะที่สัปดาห์หน้า เตรียมลงนามในกฎกระทรวงว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน เพื่อให้หมอพื้นบ้านทั้ง 3,000 คน ได้เป็นหมอพื้นบ้านตามพ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย และหากมีตำรับกัญชาที่อนุญาตแล้วก็จะสามารถนำมาใช้ดูแลประชาชนได้