วันนี้(2 ส.ค.62) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรียกประชุมผู้บริหาร และผู้อำนวยการสำนักต่างๆ เพื่อประเมินสถานการณ์ หลังเกิดเหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และสั่งการให้ตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อติดตามสถานการณ์ และตั้งทีมผู้บัญชาการเหตุการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้รายงานความคืบหน้าและการประสานงานด้านต่างๆ รวมทั้ง ให้ข้อมูลข่าวสารเป็นระยะ
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่งตรวจสอบและเชื่อมสัญญาณจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ทุกจุดให้พร้อมเรียกดูข้อมูลได้ตลอดเวลา โดยมีข้าราชการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการโยธา สำนักการแพทย์ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมในการรายงานข้อมูล หากฝ่ายความมั่นคงร้องขอ โดยเฉพาะภาพจากกล้องซีซีทีวี ซึ่งกรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยยืนยันว่ากล้องซีซีทีวีบริเวณที่เกิดเหตุสามารถใช้งานได้ทุกตัว
พร้อมกันนี้ยังได้รับการประสานจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้ กทม.จัดเตรียมข้อมูลทั้งภาพกล้องซีซีทีวี เพื่อหาพยานและบุคคลต้องสงสัยไว้ด้วย เพื่อสนับสนุนข้อมูลหลักฐานให้กับฝ่ายความมั่นคง
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ได้กำชับให้ผู้อำนวยการเขตทุกเขต สอดส่องดูแลบุคคลและวัตถุต้องสงสัย หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ขณะเดียวกันขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยดูแลสอดส่องบุคคลและวัตถุต้องสงสัย หากพบสิ่งผิดปกติให้แจ้งสำนักงานเขตในพื้นที่ หรือโทร 191 อย่าไปแตะต้องหรือไปสัมผัส หรือเคลื่อนย้ายวัตถุผิดปกติ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้
พ.ต.ท.สมเกียรติ นนทแก้ว ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สั่งการด่วนให้ทุกส่วนราชการ หัวหน้าสถานีดับเพลิง นักดับเพลิง กทม. และบุคลากรในสังกัด พร้อมให้การช่วยเหลือทุกสถานการณ์ พร้อมกำชับผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ทุกนาย เตรียมพร้อมทั้งรถและอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งาน หากพบเหตุหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรแจ้งได้ที่หมายเลข 199 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน (ศูนย์เอราวัณ) สำนักการแพทย์ สรุปเหตุระเบิดบริเวณถ.พระรามเก้า ซอย 57/1 มีผู้บาดเจ็บที่นอนรักษาตัวในรพ.สิรินทร 2 คน เป็นพนักงานทำความสะอาดสำนักงานเขตสวนหลวงคือ น.ส.คิสนา ผ่องใสสี อายุ 46 ปี และนางสุนทร รอดเสียงล้ำ อายุ 55 กระจกตาถลอก แก้วหูทะลุ
ส่วนผู้บาดเจ็บชาย 1 คน จากเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่องนนทรี ขณะนี้นอนรักษาตัวที่ รพ.วิภาราม