การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแคว้นจัมมูและแคชเมียร์ของอินเดีย ยังคงเป็นประเด็นร้อนในเอเชียใต้ที่ต้องจับตามอง เพราะสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความรุนแรงจากความไม่พอใจของปากีสถาน ชาติเพื่อนบ้านที่เป็นคู่ปรปักษ์กันมาเป็นเวลานาน
โดยเมื่อวานนี้ (8 ส.ค.2562) นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย กล่าวกับประชาชนในแคว้นจัมมูและแคชเมียร์ เป็นครั้งแรกผ่านทางสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุของทางการ นับตั้งแต่ตัดสินใจเพิกถอนสถานะพิเศษของดินแดนแห่งนี้และแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน
ผู้นำของอินเดียได้ปกป้องการตัดสินใจของรัฐบาล และประกาศว่าจะจัดการเลือกตั้งในแคว้นจัมมูและแคชเมียร์โดยเร็วที่สุดเพื่อเลือกสมาชิกสภาท้องถิ่น พร้อมกับให้เหตุผลว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนในแคว้นแคชเมียร์
คำประกาศของผู้นำอินเดียมีขึ้นในขณะที่อินเดียยังคุมเข้มความปลอดภัยในแคว้นจัมมูและแคชเมียร์ และยังคงตัดการติดต่อสื่อสารต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เพื่อปิดกั้นไม่ให้สื่อเข้าไปรายงานข่าว นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงของอินเดียได้จับกุมประชาชนในแคว้นแคชเมียร์ที่ฝ่าฝืนมาตรการเคอร์ฟิวไปแล้วอย่างน้อย 500 คน
ด้านอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ กล่าวผ่านโฆษกองค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้อินเดียและปากีสถานหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อสถานะพิเศษของแคว้นจัมมูและแคชเมียร์ และยังแสดงความวิตกเกี่ยวกับรายงานข่าวที่อินเดียตัดขาดการติดต่อสื่อสาร ส่งผลให้สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในดินแดนดังกล่าวเลวร้ายลงอีก