เมื่อวานนี้ (8 ส.ค.2562) โจโค วีโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ทำพิธีเปิดอาคารสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งใหม่ พร้อมเรียกร้องให้ชาติสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ เป็นอันหนี่งอันเดียวกัน เพื่อรับมือกับความขัดแย้งระหว่างชาติมหาอำนาจและความท้าทายต่างๆ ที่อาเซียนจะต้องเผชิญ
ภาพจาก กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
อาคารสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งใหม่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ภายในประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้องประชุมและห้องปฏิบัติงานสำหรับสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ ที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านสถานที่และการเดินทาง
ภาพจาก กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งไปร่วมงานในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียน ระบุว่า อาคารสำนักงานเลขาธิการอาเซียนแห่งใหม่นี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่มาก ตั้งแต่อุปกรณ์และเครื่องมือ-เครื่องใช้ที่ครบครัน ถือเป็นเป็นก้าวใหม่ของอาเซียนในปีที่ 53
ขณะที่การออกแบบภายในอาคารยังได้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของภูมิภาค ตั้งแต่ห้องโถงกลางที่ถูกออกแบบให้สื่อถึงจิตวิญญาณของชาวเบอตาวี กลุ่มชนพื้นเมืองในกรุงจาการ์ตา ไปจนถึงห้องแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินของสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ
อาคารหลังใหม่ยังก่อสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด "อาคารสีเขียว" ที่ให้ความสำคัญกับการลดใช้พลังงานและลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการของปัญหาฝุ่นควันในภูมิภาค ด้วยการปรับให้โถงทางเดินทั่วทั้งอาคารเป็นพื้นที่ปลอดเครื่องปรับอากาศ และควบคุมอุณหภูมิภายในห้องประชุมและห้องปฏิบัติการต่างๆ ให้อยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส เพื่อให้สอดคล้องกับวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่อาเซียนให้ความสำคัญอยู่ในขณะนี้
นอกจากนี้ ในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 52 ปีของอาเซียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ยังได้ย้ำถึงเจตนารมย์และความสำคัญที่ผู้นำอาเซียนได้ร่วมกันวางรากฐานที่สำคัญสำหรับอาเซียนในปัจจุบัน ได้แก่ การจัดตั้งสำนักเลขาธิการอาเซียน สนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC) และปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมืออาเซียน (ปฎิญญาบาหลี) ในที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1967 ที่บาหลี จวบจนปัจจุบันซึ่งประชาคมอาเซียนได้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญของสันติภาพและความมั่งคั่งในภูมิภาค รวมถึงเป็นภาคีสำคัญของประชาคมระหว่างประเทศ