วันนี้ (13 ส.ค.2562) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รับฟังการสรุปสถานการณ์แก้ปัญหาภัยแล้ง รวมถึงน้ำหลากในบางจังหวัด จากนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ว่าที่ปลัด ทส., นายสุวัฒน์ เปี่ยมปัจจัย อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ, นางจงจิตร์ นีรนาทเมธีกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
นายวราวุธกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้บูรณาการกับหลายหน่วยงาน เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ขุดเจาะบ่อบาดาลที่ จ.สุรินทร์ บริเวณบ้านพักของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ซึ่งอยู่กันประมาณ 600 คนแต่ห่างจากตัวโรงพยาบาลไปประมาณ 3 กิโลเมตร ทั้งนี้จากการสำรวจทางธรณีฟิสิกส์จากความลึกประมาณ 60 เมตร และคาดว่าจะได้น้ำ 100 คิวต่อวัน
นอกจากนี้ยังได้เจาะบ่อบาดาลในบริเวณวัด โดยประสานกับทางเจ้าคณะจังหวัดที่ อ.เมือง เนื่องจากชุมชนใกล้วัดนั้นขาดแคลนน้ำ ให้พี่น้องประชาชนสามารถมารับน้ำตรงนี้ไปใช้ได้
ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ดำเนินการสำรวจเพื่อขุดเจาะที่โรงพยาบาลลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ โดยประสานงานทำงานร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค
นายวราวุธ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เข้าสำรวจและขุดเจาะบ่อบาดาล ในพื้นที่ อบต.ต่างๆ เพื่อให้แต่ละแห่งมีบ่อบาดาลเป็นของตัวเอง แต่อาจจะติดปัญหา จ.สุรินทร์ เป็นจังหวัดที่มี น้ำบาดาลเป็นน้ำเค็ม ซึ่งทางอธิบดีรายงานว่า การใช้น้ำเพื่อทำระบบประปาไม่ใช้น้ำจากน้ำบาดาล นอกจากพื้นที่แห้งแล้งซ้ำซาก และในปีนี้กระทรวงฯ ได้เข้าไปทำแล้ว 17 หมู่บ้าน เพื่อให้มีระบบประปา
ส่วนปัญหาน้ำล้นที่อ่างเก็บน้ำมรสวบ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้น เป็นอ่างเก็บน้ำที่สร้างมานานตั้งแต่ปี 2539 อยู่ในภาระกิจดูแลของกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวง ทส. มีรอยรั่วที่คันดินและซ่อมแซมมาเป็นระยะ ด้วยอายุการใช้งานมานาน อาจซ่อมแล้วไม่คุ้ม อธิบดีเสนอทำใหม่ และขยายความจุเพิ่มมากขึ้น จากเดิม 1.6 ล้าน ลบ.ม. เป็น 2 ล้าน ลบ.ม.ขึ้นไป ทั้งนี้ต้องส่งผู้เชี่ยวชาญไปสำรวจข้อเท็จจริงเพื่อทำการแก้ไขปัญหา ก่อนที่จะสรุปแนวทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืนต่อไป เพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่
“กระทรวงไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหาน้ำทั้งแล้งและหลาก ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาไม่แพ้กัน เราเร่งหาแหล่งน้ำให้กับเกษตรกร น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร ต้องค่อยๆแก้ไขปัญหา” นายวราวุธกล่าว