วันนี้ (14 ส.ค.2562) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ประกอบด้วย นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. พร้อมด้วยแกนนำ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายยศวริศ ชูกล่อม นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และแนวร่วม นปช. รวม 24 คน
จำเลยทั้ง 24 คน ถูกฟ้องในความผิดร่วมกันก่อการร้าย ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 135/1, ม.135/2 และร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา ให้ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 116, 215, 216 และร่วมกันชุมนุม ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 รวม 6 ข้อหา ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-20 พ.ค.2553 เพื่อกดดันต่อต้านรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขณะนั้นประกาศยุบสภา
ศาลอ่านคำพิพากษา ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด เนื่องจากพยานหลักฐานตามทางนำสืบของโจทก์ไม่มีพยานปากใดที่จะยืนยันว่า มีจำเลยคนหนึ่งคนใดที่เป็นแกนนำกลุ่ม นปช.ได้กระทำอันเป็นการยุยงปลุกปั่น ให้ผู้ร่วมชุมนุมกระทำการที่จะมีเจตนาพิเศษถึงขนาดเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงเห็นว่าเป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องตามสิทธิทางการเมือง