สำหรับการแข่งขันหมากฮอสไทยชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 22 ในปีนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขันปรับเปลี่ยนกติกาเพื่อสร้างสีสันอย่างน่าสนใจ และเพื่อเป็นการลดปัญหาการยืดเยื้อ จึงหันมาใช้ "กฎกระดานทองคำ"
กีฬาหมากฮอสไทย ถือเป็นหนึ่งในกีฬามรดกของไทย มีกติกาที่เข้าใจง่าย แถมยังสามารถนำกระดาษมาตีตารางเป็นกระดาน และใช้ก้อนหินเป็นเบี้ยได้ จึงนับว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของกีฬาหมากฮอสไทย โดยหมากฮอสไทยกำหนดให้มีเบี้ยฝั่งละ 8 ตัว ส่วนหมากฮอสสากลมีเบี้ยฝั่งละ 20 ตัว
เบี้ยฝั่งละ 8 ตัวนี้ เมื่อเบี้ยตัวไหนไม่โดนกินจากการข้าม และเดินได้ถึงสุดกระดาน เบี้ยตัวนั้นจะถูกเปลี่ยนเป็น ตัวฮอส ให้เดินหน้าถอยหลังกี่ช่องก็ได้ ซึ่งฝั่งไหนกินคู่ต่อสู้หมดกระดานจะเป็นผู้ชนะ
แต่มีหลายครั้งที่มักจะจบลงด้วยผลเสมอ ซึ่งเป็นปัญหาปวดหัวของผู้จัดอยู่บ่อยครั้ง และเนื่องจากหมากฮอสไทยสามารถปรับเปลี่ยนกติกาได้ตลอดตามสถาณการณ์ จึงไม่แปลกที่จะเห็นสีสันจากกติกาการแข่งขันในครั้งนี้
โดยทั่วไปในรอบ น็อคเอาท์ กรณีที่มีผลเสมอ 5-5 เกม ปกติจะใช้วิธีเสี่ยงทายเลือก หัว หรือ ก้อย หาผู้ชนะซึ่งถูกมองว่าเป็นวิธีที่ง่ายเกินไป และไม่ยุติธรรมจึงมีการกำหนด “กฎกระดานทองคำ” ขึ้นมา ซึ่งจะมีการเพิ่มเบี้ยจาก 8 เป็น 12 ตัว ใครเข้าฮอสก่อนเป็นผู้ชนะ
และล่าสุดในการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยแม้จะใช้ “กฎกระดานทองคำ” แต่มีรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มจากการเสี่ยงทายเลือก หัว หรือ ก้อย ผู้ชนะจึงจะมีสิทธิเลือกรูปแบบการเดิน ซึ่งแบ่งเป็น 2 รูปแบบ โดยสามารถเลือกขอใช้เวลา 18 นาที แต่ต้องกินหมากให้หมดทุกตัว หรืออาจจะเลือกขอใช้เวลา 5 นาที ซึ่งเล่นเพียงเสมอก็ถือว่าชนะ
สำหรับในปีนี้ มีการใช้ “กฎกระดานทองคำ” เพียงเกมเดียว ในรอบรองชนะเลิศ โดยฝ่ายที่ชนะการเสี่ยงทายขอใช้เวลา 5 นาที ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ และหลายฝ่าย รวมถึงกรรมการมองว่า กติกามีความยุติธรรม และ ไม่ยืดเยื้อ แต่ที่ผ่านมาก็มีการปรับเปลี่ยนกติกามาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นพัฒนาการของกีฬามรดกไทย