วันนี้ (15 เม.ย.2568) ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เผยแพร่ประกาศยุบสภาของประธานาธิบดี และระบุว่าได้ขอให้มีการจัดการเลือกตั้งขึ้น เนื่องจากต้องการเปิดทางให้ชาวสิงคโปร์ได้ตัดสินใจเลือกรัฐบาล ซึ่งจะนำพาประเทศในช่วงเวลาวิกฤต หลังจากโลกกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอนและอาจถึงขั้นไร้เสถียรภาพมากขึ้น
ขณะที่หน่วยงานการเลือกตั้งสิงคโปร์ ประกาศว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะจัดขึ้นในวันที่ 3 พ.ค.นี้ และกำหนดให้วันที่ 23 เม.ย. เป็นวันสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้ผู้สมัครมีเวลาหาเสียงเพียง 9 วัน และคาดว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ ชาวสิงคโปร์จะให้ความสนใจในประเด็นเรื่องค่าครองชีพ การจัดสรรที่อยู่อาศัย การจ้างงาน และการบริการสุขภาพ หลังจากสิงคโปร์มีตัวเลขประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้น

การเลือกตั้งในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของลอว์เรนซ์ หว่อง ในฐานะผู้นำพรรคพีเอพี นับตั้งแต่รับไม้ต่อมาจากลี เซียน ลุง อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปีที่ผ่านมา โดยพีเอพีเป็นพรรครัฐบาลที่ครองอำนาจมาตั้งแต่อังกฤษให้อำนาจสิงคโปร์ในการปกครองตนเองเมื่อปี 1959 และถือเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผู้นำพรรคไม่ได้มาจากตระกูลลี

(แฟ้มภาพ) นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสิงคโปร์ ลอว์เรนซ์ หว่อง (ซ้าย) จับมือกับอดีตนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง (ขวา) ในพิธีสาบานตนที่อิสตานาในสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2024
(แฟ้มภาพ) นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสิงคโปร์ ลอว์เรนซ์ หว่อง (ซ้าย) จับมือกับอดีตนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง (ขวา) ในพิธีสาบานตนที่อิสตานาในสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2024
มีการคาดการณ์ว่า พรรครัฐบาลสิงคโปร์จะยังคงครองอำนาจต่อไปได้ แต่อาจเผชิญความท้าทายจากพรรคฝ่ายค้านที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยในการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 พรรครัฐบาลกวาดที่นั่งในรัฐสภาไปได้ 83 ที่นั่ง จากทั้งหมด 93 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการสูญเสียที่นั่งให้กับพรรคฝ่ายค้านมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่วนในครั้งนี้มีการเปิดให้ลงชิงชัยทั้งสิ้น 97 ที่นั่ง
ผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยยูโกฟ เมื่อเดือน มี.ค. พบว่า ชาวสิงคโปร์ร้อยละ 44 ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกใคร ในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้น ในจำนวนนี้ มีถึงร้อยละ 63 ที่ตัดสินใจจะเลือกพรรครัฐบาล ขณะที่ร้อยละ 15 ระบุว่าจะเลือกพรรคฝ่ายค้าน

ผู้คนนั่งบนม้านั่งในช่วงพักเที่ยงตรงข้ามอาคารรัฐสภาในสิงคโปร์
ผู้คนนั่งบนม้านั่งในช่วงพักเที่ยงตรงข้ามอาคารรัฐสภาในสิงคโปร์
การเลือกตั้งครั้งนี้ยังจัดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์โลกที่กำลังคุกรุ่นจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน โดยกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ คาดการณ์ว่า ในปีนี้เศรษฐกิจของสิงคโปร์จะโตสูงสุดเพียงแค่ร้อยละ 2 เท่านั้น จากเดิมที่คาดการณ์ไว้สูงสุดที่ร้อยละ 3 เนื่องจากผลกระทบจากสงครามการค้า ขณะที่สหรัฐอเมริกาตั้งภาษีนำเข้าสินค้าจากสิงคโปร์ร้อยละ 10
อ่านข่าว : พบแล้ว Daniel วัย 26 ปี ปลอดภัยดี หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหา
"ทวี - ดีเอสไอ" สอบ "วิศวกร" ปมถูกปลอมลายเซ็นคุมงานตึก สตง.
ปภ.แจงไม่แจ้ง SMS แผ่นดินไหวกระบี่ จ่อทดสอบ Cell Broadcast