วันนี้ (24 ส.ค.2562) ประธานาธิบดี จาอีร์ โบลโซนาโร ผู้นำบราซิล มีคำสั่งให้กองทัพระดมทหารเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวน ดินแดนชนเผ่าพื้นเมืองและพรมแดนในเขตแอมะซอน เพื่อดับไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังถูกกดดันอย่างหนักจากผู้นำสหภาพยุโรป
โดยฝรั่งเศสและไอร์แลนด์ ขู่ว่าจะไม่ให้การรับรองข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่กับกลุ่มชาติอเมริกาใต้ หากบราซิลยังไม่เร่งหาทางดับไฟป่าในผืนป่าแอมะซอน ซึ่งเปรียบเสมือนปอดของโลก ขณะที่ฟินแลนด์ เรียกร้องให้สหภาพยุโรปพิจารณาห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์จากประเทศบราซิล
ด้านกลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อม จัดการชุมนุมประท้วงใหญ่ในหลายเมืองของบราซิล รวมทั้งในนครริโอเดอจาเนโร เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหาทางดับไฟป่า เช่นเดียวกับในอีกหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในกรุงลอนดอน, เบอร์ลิน, นครมุมไบ และปารีส ที่มีการชุมนุมประท้วงที่หน้าสถานทูตบราซิล เพื่อกดดันประธานาธิบดีบราซิล
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโบลโซนาโร เปิดเผยว่า รัฐบาลบราซิลไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะต่อสู้กับวิกฤตไฟป่าแอมะซอน ท่ามกลางข้อกล่าวหาจากกลุ่มพิทักษสิ่งแวดล้อมที่ว่า รัฐบาลบราซิลเป็นต้นเหตุของไฟป่า ซึ่งเป็นผลมาจากที่ประธานาธิบดีโบลโซนาโร ส่งเสริมให้มีการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร