วันนี้ (26 ส.ค.2562) นายวรพล นะพล ผู้บริหารบริษัท มาร์เวลฮอริเดย์ (ประเทศไทย) จำกัด นำหลักฐานมาร้องเรียนกับ รายการสถานีประชาชน ว่า เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2562 ได้ตกลงซื้อตั๋วรถไฟนอนชั้นสอง จากสถานีต้นทางจ.เชียงใหม่- กทม. ช่วงเดือน ก.ค 2562 จำนวน 12 กรุ๊ป รวม 340 ที่นั่ง และได้จ่ายค่าตั๋วรถทั้งหมด 245,024 บาท ผ่านบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทยที่เคาเตอร์ช่องที่ 1 สถานีรถไฟหัวลำโพง เข้าบัญชีธนาคารของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงเป็นผู้ทำรายการออกตั๋วรถไฟและเป็นเจ้าหน้าที่รับชำระราคาตั๋วรถไฟดังกล่าวไปทั้งหมด 12 กรุ๊ป แต่ในวันดังกล่าว นายวรพล ได้รับตั๋วเดินทางโดยรถไฟเพียง 5 กรุ๊ป ส่วนที่เหลืออีก 7 กรุ๊ป เจ้าหน้าที่อ้างว่าจะทยอยออกตั๋วให้ครบทั้ง 7 กรุ๊ป ก่อนวันเดินทางเพราะติดปัญหาเรื่องจัดสรรที่นั่ง
นายวรพลเล่าว่าถึงใกล้กำหนดวันเดินทางได้ติดต่อทวงถามขอรับตั๋วรถไฟจากเจ้าหน้าที่หญิงคนดังกล่าว แต่กลับได้รับการปฎิเสธและติดต่อเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ได้ ทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหายเพราะได้กำหนดวันเวลาเดินทางของกรุ๊ปทัวร์ไว้ล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงจำเป็นต้องชำระเงินเพื่อซื้อตั๋วใหม่อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 จำนวน 7 กรุ๊ป จำนวน 150,827 บาท
ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน นายวรพลพยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋วคนดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อได้จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.รถไฟนพวงศ์ เบื้องต้นตำรวจได้ออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่ขายตั๋วคนดังกล่าวมาให้ปากคำ ซึ่งเธอรับสารภาพต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้นำเงินของลูกค้าไปใช้ส่วนตัว และยินยอมชดใช้ให้กับลูกค้าจำนวน 150,827 บาท ภายในวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า
ล่าสุด ทางบริษัททัวร์ได้มอบอำนาจให้ทนายความทำหนังสือถึงผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวว่าได้ประพฤติผิดของการประกอบธุรกิจให้บริการได้ครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของลูกค้า ไปโดยเบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริตหรือไม่ อีกทั้งการรถไฟฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในการให้บริการการเดินรถไฟแห่งประเทศไทยต้องร่วมกันหรือแทนกันรับผิดชอบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวหรือไม่