วันนี้ (29 ส.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก สัตว์ : สิทธิและโอกาส - Thailand Animal Rights Alliance เปิดเผยภาพนางอายอยู่ในกรง โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่อุกอาจและท้าทายกฎหมายอาญาและกฎหมายอนุรักษ์สัตว์ป่าอย่างยิ่ง เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการพบเห็นการขายสัตว์ป่าคุ้มครองอย่าง-นางอาย ที่อยู่ในสภาพที่ถูกทารุณกรรมและน่าเวทนา มีบาดแผล และที่สำคัญวางขายอย่างโจ่งแจ้ง ในตลาดในค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช
ล่าสุดมีการยืนยันว่า การค้าสัตว์ป่าและสภาพสัตว์ป่าอย่างนางอายอยู่ในสภาพน่าเวทนา ตามตัวมีแต่บาดแผล ในตลาด px ค่ายทหารวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 จ.นครศรีธรรมราช หลังจากทางหน่วยงาน รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน และจากคำสั่งตรงจากอธิบดีกรมอุทยานสัตวป่าและพันธ์ุพืช ให้ทาง ผอ.สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) ได้นำกำลังเข้าตรวจพื้นที่เบื้องต้นไม่พบตัวนางอาย แต่หลังจากตรวจสอบพื้นที่จนถึงเวลา 20.30 ได้เบาะแสจากแม่ค้าในตลาดว่าพบเห็นคนถือกรงนางอายเข้ามาวาง แต่หายไปแล้ว
ภาพ:Thailand Animal Rights Alliance.
ภาพ:Thailand Animal Rights Alliance.
เร่ขายตัวละ 800-1,500 บาทอ้างปล่อยแล้ว
ทั้งนี้ทาง กองทัพภาคที่ 4 เจ้าของพื้นที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ นายทหารสารวัตรกองทัพภาคที่ 4 พ.อ.นุกูล ดำสุวรรณ ได้ประสานเพื่อหาตัวคนขายนางอายต่อไป เนื่องตากคนขายในตลาดนี้จะเป็นแม่ค้าประจำ คุ้นหน้าคุ้นตากันดี น่าจะตามหาตัวได้ ได้มอบหมายให้นายทหารที่ดูแลพื้นที่ในตลาด สืบหา แหล่งพักที่อยู่อาศัยของคนขายต่อไป
จนกระทั่งทางนายทหารสารวัตรกองทัพภาคที่ 4 ได้ตามสืบจนพบ และตามไปถึงผู้ที่จับนางอายมาขาย นายทหารสารวัตรกองทัพภาคที่ 4 และได้เชิญตัว มาสอบสวน ซึ่งให้การรับสารภาพว่าได้จับนางอายมาเอามาขายจริง โดยนางอายมาหลบในบริเวณบ้านเลยจับมาขาย ในราคา 800 บาท และผู้รับฝากมาขายในตลาดบวกเพิ่มเป็น 1,500 แต่ไม่มีคนซื้อ ประกอบกับตอนเย็นมีเจ้าหน้าที่กรมอุทยานเข้ามาตามหาที่ตลาด จึงกลัวความผิดได้รีบนำนางอายไปปล่อยป่า
ภาพ:Thailand Animal Rights Alliance.
ภาพ:Thailand Animal Rights Alliance.
กรมอุทยานฯแนะแจ้งเบาะแสทันที
ทั้งนี้ทางนายทหารสารวัตรกองทัพภาคที่ 4 ได้ทำการเก็บข้อมูลบุคคลที่จับและขายสัตว์ป่าไว้ทั้งหมดแล้ว และกำชับให้ทหารที่ดูแลพื้นที่ได้ทำการตรวจตราไม่ให้เกิดการกระทำผิดในพื้นที่อีกต่อไป และรวมทั้งทางผู้อำนวยการ สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 เองก็ได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ ออกสอบการค้าสัตว์ป่าในพื้นที่ตลาดอย่างเคร่งครัด
แหล่งข่าวจากกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ขณะนี้อาจจะยังมีช่องว่างการตรวจสอบในตลาดนัดต่างๆที่มีกระจายในหลายพื้นที่และในหลายหน่วยงาน ซึ่งกรณีการนำนางอายมาขายในค่ายทหาร ยืนยันว่าไม่เกิดจากการอ่อนประชาสัมพันธ์ ทั้งในเรื่องของการคุ้มครองสัตว์ป่าที่ห้ามซื้อห้ามขาย และกฎหมายสัตว์ป่าฉบับใหม่ แต่สาเหตุมาจากการไม่เคารพกติกาของชาวบ้าน หรือบางกลุ่มที่อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ หม่รู้ว่าเป็นสัตว์ป่า ถือเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น
อาจจะมาจากช่องว่างความเข้มงวดที่ไม่เต็มที่ และทุกฝ่ายจะต้องช่วยเป็นหูตาและดูแลทรัพยากรของประเทศ โดยเฉพาะตลาดนัด เจ้าของพื้นที่ต้องช่วยกันแจ้งเบาะแสและกวดขัน เพราะกฎหมายฉบับใหม่มีบทลงโทษที่รุนแรง