วันนี้ (2 ก.ย. 2562) นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 6 ก.ย.นี้ คณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารระบบขนส่งทางราง จะมีการพิจารณาและอนุมัติมาตรการลดค่าครองชีพในการเดินทางแก่ผู้ใช้ระบบรถไฟฟ้า
โดยการลดราคาค่ารถไฟฟ้า แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือการจัดทำตั๋วเดือน ที่จะลดราคาจากค่าโดยสารเฉลี่ย รวมทั้งการปรับลดราคาการเดินทางนอกชั่วโมงเร่งด่วน (ออฟ พีค) โดยจะลดราคาค่าโดยสารช่วงออฟพีคลง ซึ่งจะมีการกำหนดเวลาอีกครั้ง ภายใต้แนวคิดให้เวลาออฟพีคของรถไฟฟ้าทุกระบบตรงกัน
เริ่มจาก การลดราคาแบบจัดทำตั๋วเดือน ซึ่งจะเป็นการลดราคาค่าโดยสารเฉลี่ยของรถไฟฟ้าแต่ละระบบ โดยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ราคาปกติ อยู่ที่ 15-45 บาท /คน/เที่ยว มีราคาเฉลี่ย 31 บาท เมื่อทำตั๋วเดือน จะลดค่าโดยสารเฉลี่ยเหลือ 25-30 บาท/คน/เที่ยว โดยช่วงออฟพีคจะเก็บในราคา 15-25 บาท /คน/เที่ยว
รถไฟฟ้าสายสีม่วง อัตราปัจจุบันที่ 14-42 บาท/คน/เที่ยว ค่าโดยสารเฉลี่ย อยู่ที่ 21 บาท ตั๋วเดือนจะลดเฉลี่ยเหลือ 15-20 บาท /คนต่อเที่ยว และจัดเก็บช่วง ออฟพีค14-25 บาท/คน/เที่ยว
ส่วนสายสีน้ำเงิน ปัจจุบัน 16-42 บาท/คน/เที่ยว อัตรา เฉลี่ยคือ 25บาท/คน/เที่ยว เมื่อเป็นตั๋วเดือนค่าโดยสารจะลดลงเหลือที่ 20-25 บาท/คน/เที่ยวและช่วง ออฟพีค จะลงมาเหลือ 16-30 บาท/คน/เที่ยว
ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอส ค่าโดยสารปกติอยู่ที่ 16-44 บาท/คน/เที่ยว โดยเป็นอัตราค่าโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 29 บาท/คน/เที่ยวขณะที่อัตราค่าโดยสารโปรโมชั่นแบบตั๋วเดือนอยู่ที่ 26 บาท/คน/เที่ยว ซึ่งบีทีเอส ยังไม่มีแผนที่จะลดค่าโดยสารในช่วงออฟพีค
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวจะทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในระบบร้อยละ 10 ของจำนวนผู้โดยสารในปัจจุบัน ขณะเดียวกันยอมรับว่า อาจทำให้รัฐมีรายได้น้อยลง จึงได้เตรียมแผนหารือกับกรุงเทพมหานครและกระทรวงการคลัง ในการนำภาษีป้ายวงกลมในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งแต่ละปีซึ่งแต่ละปีจัดเก็บได้ประมาณ 14,000 ล้านบาท โดยจะขอจัดสรรมาใช้อุดหนุนมาตรการดังกล่าวปีละ 500 ถึง 1,000 ล้านบาท
อธิบดีกรมการขนส่งทางรางยังกล่าวต่อว่า ยังมีแนวคิดในการจูงใจให้คนหันมาใช้บริการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนมากขึ้น โดยจะใช้มาตรการทางภาษีโดยสามารถนำใบเสร็จค่าโดยสารมาลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในลักษณะเดียวกับโครงการช็อปช่วยชาติ แต่มาตรการนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
หากมาตรการนี้ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมฯ ก็จะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้อนุมัติการบังคับใช้ทันที โดยเฉพาะมาตรการลดค่าโดยสารช่วง off peak สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยจะทดลองใช้มาตรการ 3 เดือน ก่อนจะประเมินผลว่า ส่งผลดีต่อการให้บริการระบบรางอย่างไร