สืบเนื่องจากกรณี นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ถูกนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย นำลูกน้อง 2 คน เข้าไปทำร้ายร่างกายนายยุทธพงศ์ ณ ห้องทำงานของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชั้น 4 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย
เมื่อตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง พบว่า นายนวัธ เคยใช้กำลังทำร้ายเพื่อนร่วมพรรคมาแล้ว โดยครั้งแรก คือวันที่ 5 ธ.ค.2561 ระหว่างการประชุมพรรคเพื่อไทย เพื่อสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส. เขต 7 จ.ขอนแก่น จากเดิมที่เป็นนายนวัธ เพราะนายนวัธ ถูกดำเนินคดีจ้างวานฆ่านักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น
โดยมีรายงานว่า นายนวัธ ได้กระโดดถีบว่าที่ผู้สมัครที่คาดว่าจะมาลงสมัครในเขตเดิมของตน พร้อมพูดจาข่มขู่ ท่ามกลางแกนนำพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในการประชุม
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทยในขณะนั้น เข้าไปห้ามปรามแต่ไม่เป็นผล เพราะนายนวัธไม่ยอมหยุด จนนายภูมิธรรม ต้องขอให้ว่าที่ผู้สมัครคนใหม่เดินหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ
ไม่มีใครโกงและ "ไม่มีใครฆ่าคนตาย"
ส่วนความขัดแย้งเบื้องหลังระหว่างนายยุทธพงศ์ และนายนวัธ นั้น สืบเนื่องจากวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาฯ มีการพิจารณา เรื่อง การขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) ซึ่งมี นายุทธพงศ์ จริสเสถียร ส.ส.มหาสราคาม พรรคเพื่อไทย เป็นกรรมาธิการวิสามัญฯ ด้วย
โดยนายนวัธ อภิปรายว่ามี "ข่าวลือ" ว่ามีกรรมาธิการฯ มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งถูกประธานที่ประชุมขอให้ถอนคำพูดเพราะไม่ควรนำ "ข่าวลือ" มาใช้อภิปรายโดยไม่มีข้อเท็จจริง และต่อมานายนวัธ ได้ถอนคำพูดและใช้คำว่า "เขาคุยกันในสภา" แทน
ต่อมา นายยุทธพงศ์ ตอบโต้ว่า "การพาดพิงกรรมาธิการแบบนี้คณะกรรมาธิการเกิดความเสียหาย ผมกราบเรียนท่านประธานไปยังท่านนวัธ ถ้าท่านมีหลักฐาน ผมท้าให้ไปดำเนินคดีและเอาไปติดคุกเลย ท่านอย่าปล่อยไว้"
"เพราะท่านบอกว่ามีคนมาคุยกับท่าน แสดงว่ามันต้องมีตัวตน ผมท้าครับ อย่าปล่อยไว้ครับ"
ในกรรมาธิการชุดนี้ รับรองได้ว่าไม่มีใครคดโกง และไม่มีใครไปพัวพันกับคดีฆ่าคนตายด้วย
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีรายงานว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยได้เรียกทั้งคู่เข้าไปไกล่เกลี่ยกันแล้ว แต่ในการประชุมกรรมการบริหารเมื่อวานนี้ กลับมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
ประวัติ "นวัธ-ยุทธพงศ์"
นายนวัธ เตาะเจริญสุข หรือ "เสี่ยเตาะ" เป็นคน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่สร้างฐานะและมีชื่อเสียงใน จ.ขอนแก่น เข้าสู่การเมืองโดยเริ่มจากการเป็นสมาชิก อบจ. ขอนแก่น และรองนายกฯ อบจ.ขอนแก่น
ลงสมัคร ส.ส. ครั้งแรก ปี 2548 ในนามพรรคมหาชน แต่แพ้การเลือกตั้ง ต่อมา ปี 2550 ลงสมัครส.ส. อีกครั้งในนามพรรคพลังประชาชน จนชนะการเลือกตั้งเรื่อยมา นอกจากนี้ นายนวัธ ยังมีชื่อเสียงจากการซื้อกิจการ บจก.แม็กซ์มวยไทย ด้วย
ขณะที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเถียร หรือ "เสี่ยโจ้" เป็นคน จ.มหาสารคาม โดยกำเนิด และเป็นลูกเจ้าของโรงสีข้าวแหลมทอง เริ่มเข้าสู่การเมืองระดับชาติ ปี 2544 ชิงเก้าอี้ ส.ส.มหาสราคาม และชนะเลือกตั้งตั้งแต่ครั้งแรก ครั้งนั้นสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และมีบทบาทโดดเด่นในการตรวจสอบทุจริตจนได้ฉายา "จอมแฉ"
ปี 2552 ย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทย และสร้างชื่อในปีแรกด้วยการตรวจสอบที่ดินเขาแพงของ นายแทน เทือกสุบรรณ ลูกชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งกลายเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่ทำให้นายยุทธพงศ์ ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในวัน 40 ต้นๆ