วันนี้ (11 ก.ย.2562) ตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ เดินเท้าจากหน้าองค์การสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนิน ไปยังอาคารศาลฎีกา บริเวณศาลพระแม่ธรณีบีบมวยผม เพื่อยื่นหนังสือถึงประธานศาลฎีกา ขอความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหาด้านคดีความของกลุ่มพีมูฟ พร้อมข้อเสนอเชิงนโยบาย ผลการหารือและแผนการประชุมร่วมกับรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรายละเอียดคดีความ ของสมาชิกกลุ่มพีมูฟ จำนวน 22 คดี เช่น กรณีชุมชนบ่อแก้วและชุมชนซับหวาย จ.ชัยภูมิ, ชุมชนบ้านกุดเข้ จ.ยโสธร, ชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล, ชุมชนบ้านทับเขือปลักหมู จ.พัทลุง และ จ.ตรัง, ชุมชนน้ำแดงพัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี, ชุมชนบ้านสันตับเต่า จ.ลำพูน และชุมชนบ้านตามุย จ.อุบลราชธานี
การเข้ายื่นหนังสือดังกล่าว มี น.ส.นิตยา ม่วงกลาง ตัวแทนชุมชนซับหวาย อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็น 1 ใน 14 คน ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก ในคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติไทรทอง และอยู่ระหว่างสู้คดีในชั้นศาลฎีกา เข้ายื่นหนังสือ พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านจาก 22 กรณี
รายละเอียดในหนังสือที่กลุ่มพีมูฟ ยื่นขอความเป็นธรรมต่อประธานศาลฎีกา เพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม คือ
- ขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวคดีของสมาชิกกลุ่มพีมูฟ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรมโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์
- ขอให้ชะลอการพิจารณาการดำเนินคดีของสมาชิกกลุ่มพีมูฟ ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมทุกคดี เพื่อรอแนวทางการแก้ไขปัญหาระดับนโยบายของรัฐบาล ตามผลการหารือร่วมกับฝ่ายการเมืองและฝ่ายราชการที่เกี่ยวข้อง
- จัดให้มีการไกล่เกลี่ยให้คดีจบลงอย่างถึงที่สุด
สำหรับการหารือรายประเด็นตลอดทั้งเมื่อวานนี้(10 ก.ย.) ได้ข้อสรุปเบื้องต้นถึงแนวทางการทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหารายกรณี และจะมีการรายงานความคืบหน้าทุกเดือน
ขณะที่นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมารับหนังสือด้วยตัวเอง ระบุว่า ได้รับคำสั่งตรงจากนายกรัฐมนตรี ให้มารับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากชาวบ้าน โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่หลายเรื่องต้องรอการแก้ไข
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ารัฐบาลอาจไม่ตอบรับบางข้อเสนอ ตามที่มีการหารือตลอดสองวันที่ผ่านมา จึงจะมีการเคลื่อนขบวนจากหน้าองค์การสหประชาชาติ ไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล อีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"พีมูฟ" ทวงความคืบหน้า 9 นโยบาย 16 กรณีร้อน แก้ปัญหาคนจน