วันนี้ (16 ก.ย.2562) ที่กองบังคับการปราบปราม นายจรูญ วรรณกสิณานนท์ และตัวแทนกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อถอนแจ้งความดำเนินคดี 4 บุคคล ที่เคยแจ้งความดำเนินคดีไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนกับการจัดแสดงภาพวาดในลักษณะดูหมิ่นพระพุทธศาสนาโดยการวาดพระพุทธรูปที่มีหน้าเป็นอุลตร้าแมน ซึ่งได้จัดแสดงภาพที่ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 3 - 11 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายจรูญ เปิดเผยว่า กลุ่มบุคคล 5 คน ที่เคยแจ้งความดำเนินคดีไว้คงเหลือให้ดำเนินคดีเพียงคนเดียวคือ นายวีรยุทธ ไม่ทราบนามสกุล อาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาที่วาดภาพ โดยให้เหตุผลว่า บุคคล 4 คน ที่ถอนแจ้งความอาจตกเป็นเครื่องมือจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้ให้การสนับสนุนให้มีการจัดงานแสดงรูปภาพอีกหลายคน ซึ่งวันนี้ก็ได้แจ้งความเพิ่มกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวอย่างน้อยอีก 2 คน แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ต้องให้ตำรวจดำเนินการสอบสวนต่อไป มีรหัสลับในภาพที่อาจบ่งบอกบางอย่าง
อีกทั้งจะสอบถามไปยังบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนว่ามีส่วนรู้เห็น หรืออนุญาตให้วาดอุลตร้าแมนในภาพหรือไม่ โดยยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับการนำพระพุทธรูปมาล้อเลียน และขอน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้นายจรูญได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี 5 คนด้วยกันคือ น.ส.ศุภรัตน์ ชัยจังหรีด นักศึกษาที่วาดภาพ ,นายวีรยุทธ ไม่ทราบนามสกุล ,อาจารย์ที่ปรึกษาของ น.ส.ศุภรัตน์ ,น.ส.ปพิชญา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอมินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา นายเฉลิมชัยโฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ที่ออกมาสนับสนุนรับุว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์ และนายเดชา กิติวิทยานันท์ ทนายความ ที่เคยเปิดเผยสู่สาธารณชนว่ากระกระทำดังกล่าวไม่เป็นความผิด โดยแจ้งความดำเนินคดีฐานความผิดตามประมวลกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร 2560 มาตรา 67 ว่ารัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา
นอกจากนี้ยังเข้าข่ายความผิดต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 206 ผู้ใดกระทำการด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 14,000 บาท
การกระทำดังกล่าวยังมีผู้ที่กระทำความผิดร่วม โดยการให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก รวมถึงการโฆษณาประกาศให้การสนับสนุนต่อสาธารณชน เข้าความความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,85 และ 86 ด้วย