วันนี้ (18 ก.ย.2562) เวลา 11.57 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีความรู้พื้นฐานทางกฎหมาย แล้วมาบริหารประเทศ การกล่าวคำปฏิญาณตนไม่ครบ ยังไม่รู้เลย จะมาอ้างศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้
ตามมาตรา 161 นายกฯ และ ครม.ก่อนเข้ารับหน้าที่ต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตรย์ด้วยถ้อยคำครบถ้วน ซึ่งนายกฯ เองไม่ใช่ครั้งแรก เคยถวายสัตย์มาแล้ว 5 ครั้ง และอ่านตามที่เลขาธิการนายกฯ เตรียมไว้ แต่ครั้งล่าสุดมีภาพนายกฯ หยิบกระดาษออกจากกระเป๋าแทนที่เขาเตรียมไว้ให้
ต่อมาเวลา 12.31 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ลุกขึ้นอภิปราย พร้อมตั้งคำถามว่า ขณะนี้มีการออก พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ.2562 ออกตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 219, 234, 235 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานจริยธรรม ถ้าคนเป็นประธานไม่ปฎิบัติและขัดต่อหลักจริยธรรมร้ายแรง ประเทศนี้จะอยู่ได้อย่างไร
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า จริยธรรมไม่ปฏิบัติก็ได้ แต่มีระเบียบที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาว่าด้วยการเป็นผู้พิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืน หรือไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ต้องมีผู้ยื่นคำร้อง 1 ใน 5 ของรัฐสภา และประชาชน 20,000 รายชื่อยื่นผ่านประธานสภาฯ ส่ง ป.ป.ช.ได้
หากมีการยื่นคำร้องไปที่ ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้วมีมูล จากนั้น ป.ป.ช.ส่งไปที่ศาลฎีกา สามารถตั้งคณะไต่สวนพิเศษ ผู้ถูกร้องหมายถึงนายกรัฐมนตรีและ ครม.ที่ไม่ปฎิบัติตามจริยธรรม กรณีถวายสัตย์ฯ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที จนกว่าการไต่สวนจะมีคำวินิจฉัยออกมา
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวต่อว่า ภายใต้ระเบียบดังกล่าว กำหนดไว้ว่า หากรับเรื่องร้องเรียนต้องพิจารณาภายใน 60 วัน และผลของการไต่สวนต้องรายงานต่อประธานศาลฎีกา และประธานศาลฎีกาต้องรายงานกลับมาที่ประธานรัฐสภาด้วย
นายกรัฐมนตรีออก พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรมฯ มาเพราะต้องการควบคุมจริยธรรมของพรรคฝ่ายค้าน แต่ตอนนี้ดาบที่ท่านยื่นมาจะกลับมาสนองท่านในเร็วๆ นี้
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก และถือโอกาสจัดการสิ่งที่รุงรัง ถือโอกาสปรับปรุงคนที่มีปัญหา ถ่วงน้ำหนักออกไป และหากนายกฯ มีโอกาสเข้ามาบริหารใหม่ก็นำ ครม.ไปถวายสัตย์ใหม่ให้ครบถ้วน ทางพรรคก็ไม่ติดใจ
เชื่อว่านายกรัฐมนตรีไม่ทำตามคำแนะนำ ดังนั้นก็จะใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญและใช้ระเบียบศาลฎีกา รวบรวม 151 รายชื่อ ยื่นคำร้องผ่านประธานสภาฯ ไปยัง ป.ป.ช. แต่ยังคิดว่าให้นายกฯ ลาออกก่อนถูกร้อง