วันนี้ (18 ก.ย.2562) ต่อมาเวลา 16.55 น. ประธานที่ประชุมได้ให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงปมถวายสัตย์ฯ แทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายวิษณุกล่าวว่า ชื่นชมว่า ส.ส.ได้ปฏิบัติตามเจตนารมณ์และความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ทุกคนมุ่งที่จะหารือกันมากกว่าต่อสู้กัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่ดำเนินการไปได้ด้วยดี
เหตุการณ์ในวันที่ 16 ก.ค.2562 ระบุ นายกฯ ได้ปฏิบัติตามขั้นตอน และทุกคนกล่าวตามทีละท่อนตามที่นายกฯ อ่าน ซึ่งการถวายสัตย์ เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลกับพระมหากษัตริย์
“การถวายสัตย์ เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลกับพระมหากษัตริย์ ซึ่งระบุไว้ในมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ เป็นการยืนยันเพื่อให้เกิดความไว้วางใจในตัวผู้กล่าวคำปฏิญาณ ใครเป็นคนไว้วางใจ พระมหากษัตริย์ไว้ใจใคร ในคณะรัฐมนตรี”
นายวิษณุกล่าวว่า ตนจึงยืนยันว่ารัฐบาลอาจจะผิด นายกฯ อาจจะผิด แต่จะเรียกว่าผิดก็คงไม่ได้ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า ดังนั้นการถวายสัตย์ปฏิญาณจึงเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคณะรัฐมนตรีกับพระมหาษัตริย์ ผมถึงสรุปว่า การถวายคำปฏิญาณเป็นเรื่องระหว่างรัฐมนตรีและพระมหากษัตริย์ ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นมีส.ส.ฝ่ายค้านลุกขึ้นประท้วง เพื่อให้นายวิษณุตอบคำถามให้ตรงประเด็นว่า การถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ ไม่ใช่การมาสอนประวัติศาสตร์
นายวิษณุกล่าวว่า ถ้าเรื่องนี้เป็นโมฆะจะเกิดฝันร้ายตามมา แต่เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง ไม่ใช่รับคำวินิจฉัย พร้อมทั้งให้เหตุผลต่อว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบขององค์กรตามรัฐธรรมนูญใด