เมื่อวานนี้ (24 ก.ย.2562) บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนยันว่า กระบวนการในการให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จะเกิดขึ้นแน่นอน แม้ว่าศาลสูงสุดอังกฤษได้ลงมติเอกฉันท์ 11 เสียง พิพากษาให้คำสั่งพักการประชุมสภาเป็นเวลานาน 5 สัปดาห์ที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษกราบบังคมทูลต่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลให้สภาสามารถเปิดประชุมต่อได้ตามปกติ
บอริส จอห์นสัน (นายกรัฐมนตรีอังกฤษ)
โดยศาลให้เหตุผลว่า คำสั่งพักการประชุมสภาของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เป็นการทำลายความสามารถของรัฐสภาในการปฏิบัติตามกลไกของรัฐธรรมนูญโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ พร้อมระบุว่าคำสั่งดังกล่าวกระทบต่อหลักการพื้นฐานของประชาธิปไตยอย่างรุนแรง
เลดี เฮล (ประธานศาลสูงอังกฤษ)
ขณะที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ ท่ามกลางกระแสเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้เขาลาออกจากตำแหน่ง รวมไปถึงไนเจล ฟาราจ แกนนำคนสำคัญในการรณรงค์ให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรปและหัวหน้าพรรคเบร็กซิท ซึ่งออกมาวิจารณ์และเรียกร้องให้จอห์นสันลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบต่อคำพิพากษาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งตั้งรัฐบาลรักษาการและจัดการเลือกตั้งใหม่ต่อไป ส่วนการออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ผู้นำพรรคเบร็กซิทมองว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว
ไนเจล ฟาราจ (หัวหน้าพรรคเบร็กซิท)