สืบเนื่องจากกรณีศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษาประหารชีวิต นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น เขต7 พรรคเพื่อไทย คดีจ้างวานฆ่าอดีตปลัด อบจ.ขอนแก่น โดยนายนวัธ ไม่ได้รับการประกันตัวและถูกศาลสั่งจำคุกระหว่างการอุทธรณ์คดี
ซึ่งนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า นายนวัธ ต้องพ้นจากการเป็น ส.ส. ทันที เพราะมีลักษณะต้องห้ามของ ส.ส. ตามมาตรา 98 (6) ที่มีสาระสำคัญห้ามบุคคลที่ต้องคำพิพากษาจำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาล ไม่ให้เป็น ส.ส. ประกอบกับ มาตรา 101 ที่ให้ ส.ส. ที่มีลักษณะตามมาตรา 98 ต้องพ้นจากการเป็น ส.ส.
สอดคล้องกับข้อคิดเห็นทางกฎหมายของ ศ.อุดม รัฐอมฤต อดีตโฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ยืนยันว่า นายนวัธ ต้องพ้นจากการเป็น ส.ส. เพราะศาลมีคำพิพากษาคดีและไม่ให้ประกันตัว เท่ากับนายนวัธ ถูกสั่งจำคุกโดยหมายศาล เข้าเงื่อนไขมาตรา 98 (6) ซึ่งแตกต่างจากกรณีที่ศาลให้ประกันตัว ที่บุคคลนั้นจะยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ไทยพีบีเอสออนไลน์ จึงได้สรุปสาระสำคัญ มาตรา 98 เกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามของ ส.ส. เพื่อตรวจสอบลักษณะต้องห้ามของ ส.ส. ที่เข้าเงื่อนไขการพ้นสภาพดังกราฟิกต่อไปนี้
ส่วน มาตรา 98 ที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญมีรายละเอียด ดังนี้
มาตรา 98 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(1) ติดยาเสพติดให้โทษ
(2) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ
(4) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 96 (1) (2) หรือ (4)
(5) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
(6) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
(7) เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(8) เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
(9) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(10) เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน
(11) เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง
(12) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำนอกจากข้าราชการการเมือง
(13) เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
(14) เป็นสมาชิกวุฒิสภาหรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพสิ้นสุดลงยังไม่เกินสองปี
(15) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจหรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
(16) เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
(17) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
(18) เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุตาม มาตรา 144 หรือ มาตรา 235 วรรค 3