วันนี้ (26 ก.ย.2562) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า โครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ ของกองทัพบก เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2554 ได้กำหนดความต้องการขั้นต่ำไว้ 31 ลำ ซึ่งในปีนั้นได้รับอนุมัติให้จัดหาเข้ามาประจำการเป็นล็อตแรกก่อน จำนวน 8 ลำ และครั้งนี้ถือเป็นล็อตที่ 2 ตามแผนรวมของการจัดหา ซึ่งได้ขออนุมัติจัดหาอีก 8 ลำ รวมระบบอาวุธ เครื่องควบคุมการยิง กล้องตรวจการณ์ ชิ้นส่วนควบคู่สำหรับซ่อมบำรุง ชิ้นส่วนซ่อมสำหรับการส่งกำลัง (ASL) ระยะเวลา 2 ปี รวมถึงการก่อสร้างโรงเก็บอากาศยาน เครื่องช่วยฝึก และหลักสูตรการฝึกอบรมในวงเงิน 4,226 ล้านบาท
สำหรับกรณีที่สื่อมวลชนนำเสนอประเด็น สำนักงานเพื่อความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงหรือ(DSCA) ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อสภาคองเกรสว่า รัฐบาลสหรัฐฯได้อนุมัติการขายเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธเบาแบบ AH-6i จำนวน 8 ลำ พร้อมอาวุธ อะไหล่ และการสนับสนุนอื่นๆ ให้กับกองทัพบกไทยในมูลค่าโครงการราว 400 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 12,000 ล้านบาท ขั้นตอนดังกล่าวเป็นไปตามกฎระเบียบของประเทศสหรัฐฯ กรณีจะมีการซื้อขายยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีทางการทหารให้กับประเทศอื่น
มูลค่ายุทโธปกรณ์ที่รัฐสภา สหรัฐฯ กำหนดกรอบอนุมัติไว้ 12,000 ล้านบาท เป็นลักษณะเปิดกรอบการจัดหาให้ไทยแบบเต็มระบบ โดยเฉพาะในเรื่องของระบบอาวุธ แต่ครั้งนี้ไทยจัดหาแบบเฉพาะรายการตามความจำเป็นภายใต้วงเงิน 4,226 ล้านบาท
สำหรับการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-6i ระหว่างกองทัพบกไทย และสหรัฐอเมริกานี้ จะช่วยสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงในภูมิภาคของทั้งสองประเทศ ในฐานะที่ไทยเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ในเอเชียแปซิฟิก AH-6i เป็นเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็กมีความคล่องตัวสูง สามารถทำภารกิจได้หลากหลายมิติ ทั้งการลาดตระเวน และสนับสนุนการโจมตีทางอากาศ
โดย AH-6i ที่ ทบ.ไทย จัดหาเป็นรุ่นที่พัฒนาขีดความสามารถ สอดรับสภาพแวดล้อมสถานการณ์ในปัจจุบัน และเป็น spec แบบ US Army ผลิตโดย Boeing โดยจะประจำการที่ กรมบิน ศูนย์การบินทหารบก (Aviation Regiment Aviation Center)