วันนี้ (27 ก.ย.2562) ตัวแทนผู้เสียหายกว่า 50 คนยื่นหนังสือต่อ ร.ต.อ.ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้เร่งรัดติดตามเส้นทางการเงินของนายภัทริคณ์ เรตะกุล ผู้บริหารบริษัท อีแอลซี กรุ๊ป จำกัด กับพวก ที่ร่วมกันฉ้อโกงให้ซื้อทัวร์ท่องเที่ยวต่างประเทศในราคาถูกผ่านสื่อออนไลน์ โดยมีการจ่ายเงินล่วงหน้ามากว่า 1-2 ปี แต่เมื่อถึงกำหนดปรากฎว่าไม่สามารถดินทางได้ ทำให้มีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกว่า 960 คน รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 300 ล้านบาท
ปัจจุบันคดีนี้ เจ้าหน้าที่กองกำกับการควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สนธิกำลังตำรวจท่องเที่ยว เข้าจับกุมนายภัทริคณ์ เรตะกุล ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2562 และได้ฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มีเวลาฝากขัง 4 ผลัดๆ ละ 12 วัน รวม 48 วัน ซึ่งครบกำหนดในวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา อัยการเจ้าของคดีมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินในลักษณะที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าสู่ระบบข้อมูลอันเป็นเท็จ หลอกลวง ระดุมทุนในรูปแบบต่างๆ ทำให้นายภัทริคณ์ ถูกฝากขังเพิ่มอีก 3 ผลัด นับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.2562 เป็นต้นไป
ที่ผ่านมา ตำรวจนครบาลหัวหมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้ร่วมกันสืบสวนเส้นทางการเงินของนายภัทริคณ์ พบว่ามีผู้รับโอนเงินต่อเป็นจำนวนมากกว่า 100 คน มีการโอนเงินเกี่ยวโยงทั้งรายการที่เป็นบริการท่องเที่ยวบางส่วน และเป็นรายการโอนไปทำธุรกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว มีกลุ่มบุคคลใกล้ชิด กลุ่มบุคคลที่มีผลประโยชน์ร่วมเป็นจำนวนมาก มีเงินออกนอกระบบไปอย่างผิดปกติ ซึ่งอาจมีการยักย้ายโอนไปยังที่ต่างๆ รวมถึงการฟอกเงินและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
ด้าน ร.ต.อ.ไพรัตน์ กล่าวว่า ได้สั่งการเป็นพิเศษให้รีบดำเนินการ ขณะนี้ ปปง.อยู่ระหว่างเร่งรัดรวมรวมพยานหลักฐาน โดยจะทำตามอำนาจตามกฏหมายที่มีอย่างเต็มที่