วันนี้ (30 ก.ย.2562) นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (บอร์ด รฟท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมสรุปผลการทำงานของบอร์ดในช่วงที่ผ่านมา และบอร์ด รฟท. ได้มีการยื่นใบลาออกทั้งหมด และตนได้แจ้งการลาออก ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมทราบแล้ว โดยการลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป
นายกุลิศ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้ทำเต็มกำลังของผมแล้ว ที่เหลือหลังจากนี้คงต้องรอให้คณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาเร่งดำเนินการสานต่อ ขณะที่การลาออกไม่ได้มีผลมาจากแรงกดดันของฝ่ายการเมือง แต่บอร์ดได้กำหนดกรอบเวลา ที่จะลาออกในสิ้นเดือนกันยายนมาระยะหนึ่งแล้ว พร้อมยอมรับว่าบอร์ดชุดนี้มาจากการแต่งตั้งของยุค คสช. ซึ่งเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม หากการลาออกเพื่อให้กระทรวงคมนาคมสามารถแต่งตั้งบุคคลเข้าไปเป็นบอร์ด ช่วยขับเคลื่อนนโยบายตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
ยอมรับว่า ยังห่วงและฝากให้บอร์ดชุดต่อไป รีบเข้ามาช่วยสานต่อทั้งปัญหาคดีค่าโง่โฮปเวลล์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่ล่าช้าจากการบุกรุกพื้นที่โครงการ การก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ในขณะที่การประกอบตัวรถไฟฟ้าเริ่มทยอยเสร็จแล้ว แต่โครงการจะสามารถเปิดให้บริการได้ทันในต้นปี 2564 ตามเป้าหมายหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟทางคู่ที่ต้องไปเชื่อมต่อกับท่าเรือแหลมฉบัง ที่อยู่ระหว่างการเตรียมก่อสร้างเฟสใหม่ ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นทางรถไฟควรจะต้องก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนท่าเรือ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์เชื่อมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนประเด็นปัญหาการลงนามโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมขีดเส้นให้กลุ่มซีพีและพันธมิตร จะต้องมาลงนามภายในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ แต่ รฟท. ไม่มีคณะกรรมการฯ นายกุลิศกล่าวว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้ผ่านการพิจารณาของบอร์ด รฟท.ในช่วงที่ผ่านอยู่แล้ว เนื่องจากโครงการ มีคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ดำเนินการอยู่ และมีการรายงานผลดำเนินการลงสู่คณะกรรมการอีอีซีชุดใหญ่