วันนี้ (1 ต.ค.2562) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง เพื่อปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม
สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา ประกอบด้วย ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินส่วนแบ่งของกำไรที่ได้จากกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรายได้จากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
ส่วนร่างกฎกระทรวง ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยภาษีเงินได้ เป็นการกำหนดให้กองทุนรวมที่เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ได้รับเงินได้ (ประเภทดอกเบี้ย) ตามมาตรา 40 (4) (ก) แห่งประมวลรัษฎากรและถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินได้ ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้ดังกล่าวมารวมคำนวณเป็นรายได้
ทั้งนี้ กำหนดให้การยกเว้นภาษีเงินได้ตามร่างพระราชกฤษฎีกาฯ และการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามร่างกฎกระทรวงฯ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป