วันนี้ (18 ต.ค.2562) นายเดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า งบประมาณด้านสิ่งแวดล้อมถูกจัดสรรไว้น้อยมาก เพราะมีเพียง 12,867.7 ล้านบาท คิดเป็นเพียง 0.4% ของงบประมาณทั้งหมด (3.2 ล้านล้านบาท) หากเทียบกับเงิน 1,000 บาท ก็เป็นเงินที่ถูกนำไปใช้จัดการสิ่งแวดล้อมเพียง 4 บาท ซึ่งหากเทียบกับสหภาพยุโรป พบว่า สัดส่วนงบประมาณที่ถูกจัดสรรด้านสิ่งแวดล้อม 1.6% ขณะที่ประเทศจีนจัดสรรงบด้านนี้ไว้มากถึง 2.52%
ถ้าดูตัวเลขสิ่งแวดล้อมทั้งหมด 12,867 ล้านบาท จะพบว่าใกล้เคียงกับเงินที่เอาไปใช้นโยบาย ชิม ช้อป ใช้ งบประมาณหมื่นกว่าล้านบาท ก็ใช้หมดภายใน 2 สัปดาห์ แต่อันนี้คืองบที่เอามาจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมทั้งปี
ขณะที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวอย่างปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งปีที่ผ่านมาส่งผลกระทบวงกว้าง เมื่อประเมินมูลค่าความเสียหายสูงกว่า 8 แสนล้านบาท แต่ในงบประมาณปี 2563 กลับได้รับจัดสรรงบเพื่อป้องกันปัญหานี้เพียง 241 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 0.03 ของมูลค่าความเสียหายเท่านั้น นี่จึงกำลังสะท้อนถึงกระบวนการจัดทำงบประมาณ ที่ไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม
นายเดชรัต ยังตั้งข้อสังเกตว่า งบที่ถูกจัดสรรไว้ยังเน้นไปที่การแก้ปัญหาปลายเหตุ โดยจัดสรรไปให้กับกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่กระทรวงที่กำกับดูแลต้นทางปัญหา อย่างกระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม หรือ กระทรวงพลังงาน กลับไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อวางมาตรการรับมือกับปัญหานี้