วานนี้ (21 ต.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02 โพสต์ข้อความว่าจากกรณีปรากฏว่ามีการลงข่าวในหลายสำนัก กรณีผู้ใช้บัญชี IG ชื่อ “ningpanita” โพสต์ข้อความว่า “ด้วยความไม่รู้ทาง วันนี้ต้องขับรถเองเพื่อเอารถไปเข้าฉาก ขับผิดเลนแล้วหักออก ถูกตำรวจจับ ยอมรับมันคือสิ่งถูกต้องสำหรับการผิดกฎ ประโยคแรกที่พูดกับคุณตำรวจ
“เขียนใบสั่งได้เลยค่ะ (อินเนอร์คือผิดยอมรับไม่ได้กวน) แต่คุณตำรวจทำเป็นถามนั่นนี่เดินวนไปวนมา ถามแม้กระทั่งชื่อยี่ห้อรถ (เออท้ายรถที่เดินวนไปมาก้อมียี่ห้อติด) คือแบบรู้เลย จะเอาตังเพราะคนส่วนมากจะขอช่วยหน่อยน้า เลยพูดไปว่า ขอโทษนะคะที่ทำให้เสียเวลา เขียนใบสั่งมาเถอะค่ะ ทำผิดก้อต้องปฏิบัติตามกฎ
ถ้าตำรวจมายกโทษให้เรารับตัง ก้อคงมีคนผิดแบบนี้ไปเรื่อยๆ สังคมมันถึงได้เห็นแก่ตัวขึ้นทุกวัน พูดแ ร ง ไปมั้ยอะ !!! แต่มันคือเรื่องจริงตำรวจดีๆ ก้อมีเยอะแต่คนเกลียดตำรวจมันก้อไม่ต่างกับสุภาษิตไทย #ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง”
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นปรากฏว่าก่อนเกิดเหตุ กล่าวคือ วันนี้ 21 ต.ค.62 เวลาประ มาณ 07.00 น. ส.ต.ท.ธีรพงษ์ ขาบจันทึก (รหัส 5513) ผบ.หมู่งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี/รังสิต กก.2 บก.จร. ได้ยืนปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจรอยู่บน ถ.วิภาวดีฯ ขาเข้าทางด้านคู่ขนาน บริเวณพื้นที่ปลอดภัยระหว่าง ถ.วิภาวดีฯ และเส้นเบี่ยงจากทางคู่ขนานที่จะมุ่งไปหน้าทางรัชโยธิน หน้า รร.นานาชาติ เซนสตรีเฟรน์
ใช้รถยังไม่จดทะเบียน
ต่อมาเวลาประมาณ 07.14 น. ได้มีรถยนต์ ยี่ห้อ มาเซราติ สีเทา หมายเลขทะเบียน กท 191 กทม. ขับขี่มาจากทางด้านแยกบางเขน ใช้ช่องทางคู่ขนานมาตลอด เพื่อมุ่งหน้าจะไปแยกลาดพร้าว จนกระทั้งมาถึงจุดเกิดเหตุ ส.ต.ท.ธีรพงษ์ฯ จึงได้สัญญาณมือให้หยุดรถ เนื่องด้วยผู้ขับขี่ได้ขับขี่ฝ่าฝืนเครื่องหมายบนทาง ซึ่งเป็นการขับขี่ในลักษณะเปลี่ยนช่องทางกระทันหันเดินรถ โดยฝ่าฝืนเส้นทึบบนทาง
เมื่อผู้ขับขี่ได้หยุดรถ จึงได้ขอตรวจสอบใบอนุญาตใบขับขี่ ผู้ขับขี่ได้แจ้งว่า มิได้พกติดตัวมา และได้ยื่นบัตรประชาชนให้ จึงได้ทราบว่า ผู้ขับขี่ชื่อ น.ส.ปณิตา ธรรมวัฒนะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาให้ทราบว่า ผู้ขับขี่ มีความผิดในข้างต้น ขณะที่กำลังบันทึกข้อมูลในใบสั่งนั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินตรวจสอบรอบตัวรถก็ยังไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าว เป็นรถยี่ห้ออะไร จึงได้สอบถามผู้ขับขี่ แต่เจ้าหน้าที่สะกดไม่ถูก จึงได้เดินไปดูข้อมูลดังกล่าวที่แผ่นป้ายวงกลมการชำระภาษีประจำปี ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวยังไม่ได้ชำระภาษีประจำปี
จึงได้เพิ่มข้อหา “นำรถยนต์ที่ยังไม่ได้ชำระภาษีมาใช้ในทาง” อีกหนึ่งข้อหา ลงในใบสั่ง เมื่อเขียนเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งใบสั่งดังกล่าวให้กับผู้ขับขี่ไป
หลังจากนั้น ผู้ขับขี่จึงได้ขับออกไปจากที่เกิดเหตุต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับได้ทำการบันทึกข้อมูลลงในระบบ PTM ปรากฏว่า ในระบบแจ้งว่า รถคันดังกล่าวหมายเลขทะเบียน กท 191 กทม. เป็นรถยี่ห้อ BMW รุ่น 740Le xDrive pure excellence สีเทา ประกอบกับได้ทำการตรวจสอบข้อมูลกับระบบ polis อีกครั้งได้ข้อมูลยืนยันตรงกัน จึงน่าเชื่อว่าผู้ขับขี่ได้นำรถที่ยังไม่ได้จดทะเบียนมาใช้ทางโดยไม่ได้รับอนุญาต
อนึ่ง ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่และในระหว่างสนทนากับผู้ขับขี่นั้น มิได้มีการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด หมายเหตุรายละเอียดประกอบปรากฏตามไฟล์ภาพที่แนบไปพร้อมนี้