จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก องค์การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ-ภาคประชาชน โพสต์กล่าวพาดพิงการทำงานของเรือนจำกลางคลองไผ่ โดยขอให้ตรวจสอบการขอคืนพื้นที่วัดเขาเขื่อนลั่น จ.นครราชสีมา ว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่
วานนี้ (24 ต.ค.2562) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ที่พักสงฆ์เขาเขื่อนลั่น ตั้งแต่เดิมนั้นอยู่ในเขตที่ กรมธนารักษ์ ให้สิทธิ์ในการใช้พื้นที่กับกรมราชทัณฑ์ โดยเรือนจำกลางคลองไผ่เป็นผู้ดูแล มีพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ ซึ่งอยู่บนพื้นที่ราชพัสดุ ต่อมาที่พักสงฆ์ดังกล่าว ได้ขยายพื้นที่ออกประมาณ 16 ไร่ พร้อมทั้งได้สร้างสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติม เช่น กุฏิสงฆ์ เจดีย์บรรจุธาตุ กระจายทั่วพื้นที่ และได้ขอใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อจัดตั้งเป็นวัดเขาเลื่อนลั่นในเวลาต่อมา
แต่กรมราชทัณฑ์มีแผนที่จะใช้พื้นที่ดังกล่าวก่อสร้างสถาบันพัฒนาข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้ขอคืนพื้นที่บางส่วนจากที่พักสงฆ์ ให้คงเหลือเพื่อให้สามารถตั้งวัดได้ จำนวน 10 ไร่ โตยคงพื้นที่ก่อสร้างถาวรวัตถุที่จำเป็นของวัด ได้แก่ โบสถ์ เมรุ ศาลาการเปรียญ กุฏิเจ้าอาวาสไว้ และอยู่ระหว่างดำเนินการส่งมอบพื้นที่ 10 ไร่ ดังกล่าวให้กรมธนารักษ์ เพื่อมอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา จัดสร้างเป็นวัดเขาเขื่อนลั่นต่อไป
ทั้งนี้ การดำเนินการของเรือนจำกลางคลองไผ่ ได้ผ่านความเห็นชอบของสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เจ้าคณะตำบลคลองไผ่ คณะกรรมการที่พักสงฆ์เขาเขื่อนลั่น โดยมีมติจะคืนพื้นที่ให้จำนวน 6 ไร่ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้พิจารณาขยายให้เป็น 10 ไร่ ดังกล่าว