วันนี้ (31 ต.ค.2562) ชาวบ้านพุแค หมู่ 8 ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่พบการลักลอบทิ้งสิ่งปฏิกูลบริเวณป่ารกร้างริมถนนสายพุแค-แก่งคอย อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ได้รับมอบหน้ากากจากสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งลงพื้นที่พูดคุยพร้อมซักประวัติชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ โดยชาวบ้านเชื่อว่า มีการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะพวกเขาเริ่มได้กลิ่นเหม็นมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ก่อนที่จะมีการจับกุมตัวคนขับรถบรรทุกนำกากอุตสาหกรรมมาทิ้ง
เหม็นเหมือนแก๊สรั่ว คอแห้งแสบคอ ได้กลิ่นตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว
ด้านนายสมเกียรติ สสัณพูลทอง ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระบุว่า ขณะนี้มีการประสานไปยังกรมควบคุมมลพิษ เพื่อขอให้ประเมินความเสียหายทั้งด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยผู้ที่มีส่วนรู้เห็นในกระบวนการลักลอบทิ้งครั้งนี้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการฟื้นฟู และต้องขยายผลไปให้ถึงขบวนการตั้งแต่โรงงานที่ก่อให้เกิดกากและบริษัทที่รับกำจัด
ต้องขยายผลให้ถึงบริษัทที่รับกำจัดกากและต้องรับผิดชอบในฐานะผู้ก่อให้เกิดของเสีย
ส่วนความคืบหน้าด้านคดีความ พ.ต.ท.สุบรรณ โชคพิมพา รองผู้กำกับการสอบสวน สถานี ตร.ภูธรหน้าพระลาน ระบุว่า อุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรีได้นำสิ่งปฏิกูลดังกล่าวไปตรวจวิเคราะห์เพิ่มเติม ว่าเป็นสารเคมีอันตรายหรือไม่ คาดการณ์ว่า จะรู้ผลภายในสองสัปดาห์ หากระบุได้ว่า เป็นสารเคมีอันตรายก็จะมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งมีโทษหนักกว่า
จากการสอบปากคำคนขับรถบรรทุก ระบุว่า เป็นเพียงลูกจ้าง ไม่รู้ว่าสิ่งปฏิกูลที่รับมาจากที่ไหน ขณะนี้ ตร.ได้ออกหมายเรียกเจ้าของบริษัทรถบรรทุกมาสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว เพื่อขยายผลถึงที่มาของสารเคมีดังกล่าว
เราจะทำเต็มที่สาวไปให้ถึงต้นตอ ขณะนี้อยู่ระหว่างออกหมายเรียกเจ้าของรถแล้ว คาดคดีนี้ไม่มีอะไรกังวลเพราะหลักฐานชัดเจน
จากการสำรวจบริเวณที่มีการนำของเสียมาทิ้ง เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าที่ผ่านมามีการลักลอบทิ้งมาแล้วหลายครั้ง เพราะพบร่องรอยคราบดำ และต้นไม้ใหญ่เริ่มยืนต้นตาย จึงเชื่อมั่นว่า ทำเป็นขบวนการ มีการชี้เบาะแสจากคนในพื้นที่ ซึ่ง ตร.ยืนยันทราบตัวแล้ว หากหลักฐานชัดเจนจะออกหมายจับทันที
ขณะที่อุตสาหกรรม จ.สระบุรี ระบุว่า พรุ่งนี้จะมีการขนย้ายของเสียออกจากพื้นที่ไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยเจ้าของรถบรรทุกเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด