วันนี้ (1 พ.ย.2562) นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าภายในสัปดาห์หน้าจะยื่นหนังสือขอลาออกจากกรรมาธิการชุดดังกล่าว เนื่องจากว่า มีความรู้สึกอึดอัดใจในการทำหน้า โดยเฉพาะการที่ต้องทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธานกรรมาธิการ
ผมมีฐานะเป็นโฆษกกรรมาธิการ ที่จะต้องรับผิดชอบในการลงมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งทำให้รู้สึกอึดอัดใจ เพราะผมคือ ส.ส.พลังประชารัฐ ที่มีความเชื่อมั่นในการเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่วันนี้จะให้ผมแถลงข่าวเพื่อดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล ผมทำไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นก็คงเสียคน
นายพยม ยอมรับว่า เบื้องต้นได้หารือกับทางพรรคพลังประชารัฐแล้ว ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะให้ผู้ที่มีความเหมาะสมเข้าไปนั่งในกรรมาธิการชุดนี้แทนตน เพราะตนระบุเหตุผลไปว่า ไม่สามารถทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้จริงๆ เพราะการเข้าร่วมประชุมในแต่ละครั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่เคยคุมการประชุมให้อยู่ในวาระประชุมเลย
อีกทั้งไม่สนใจในประเด็นใหม่ๆ หรือเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเลย แต่มุ่งเน้นเพียงแต่ต้องการหาประเด็นจาก พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างเช่นล่าสุดก็จะรื้อคดีนาฬิกาหรูขึ้นมาพิจารณาใหม่ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวจบสิ้นกระบวนการพิจารณาไปแล้ว จึงไม่เห็นถึงประโยชน์ที่ต้องรื้อเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เพราะเป็นการทำงานที่ถอยหลังลงคลอง สิ้นเปลืองเบี้ยประชุมที่มาจากภาษีประชาชน
ผมไม่เคยมีปัญหากับการทำหน้าที่กรรมาธิการในฐานะ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล หากเรื่องที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หยิบยกขึ้นมาพิจารณาเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ผมพร้อมที่จะทำ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ใช้กรรมาธิการเป็นเครื่องมือเพื่อดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐจะให้ใครมาทำหน้าที่ในกรรมาธิการชุดนี้แทน นายพยม กล่าวว่า จากการพูดคุยเบื้องต้นน่าจะเป็น นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.เนื่องจากนายสิระ เป็นคนกล้าสู้ กล้าชน น่าจะมีความเหมาะสมมากกว่าตน