วันนี้ ( 6 พ.ย.2562) เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ และประชาชนกว่า 60 คนรวมตัวกันยื่นรายชื่อสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติบำนาญแห่งชาติ พ.ศ.จำนวน 14,654 รายชื่อ ผ่านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้กับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ กล่าวว่า ร่างกฎหมายบำนาญแห่งชาติ มีหลักการสำคัญคือการสร้างระบบบำนาญแห่งชาติเป็นหลักประกันทางรายได้สำหรับทุกคน เมื่ออายุ ๖๐ ปีขึ้นไป ให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในอัตราที่ไม่ต่ำกว่าเส้นความยากจน หรือประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน และขณะนี้ คนส่วนใหญ่ในประเทศรู้สึกไม่มั่นคง กังวลใจว่า เมื่อแก่ตัวจะกินอยู่อย่างไร จะเป็นภาระกับลูกหลานหรือไม่ ซึ่งการมีรัฐสวัสดิการ อย่างบำนาญแห่งชาติถือเป็นเรื่องสำคัญ
การที่ประชาชนกว่า 14,000 คน ร่วมสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ สะท้อนว่ามีคนจำนวนมากที่เมื่ออายุครบ 60 ปีแล้ว ยังไม่มีหลักประกันด้านรายได้อะไรเลย จะมีเพียงเงินจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินจากลูกหลานเท่านั้น ซึ่งการมีบำนาญแห่งชาติ ถือเป็นการคืนภาษี ที่รัฐเก็บไปจากประชาชนในยามที่คนเหล่านี้ยังหนุ่มสาว และได้ทำงานเสียภาษีให้กับประเทศ ดังนั้น เมื่อพวกเขาแก่ตัวลง รัฐจึงต้องจัดหลักประกันด้านรายได้นี้ให้กับพวกเขา
นายนิมิตร์ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมากหลังจากนี้ คือการใช้ ดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีที่ต้องให้ความเห็นชอบเบื้องต้นต่อร่างกฎหมาย ว่ามองเรื่องนี้เป็นภาระ เป็นเรื่องของการเมือง เป็นประชานิยมแล้วไม่เซ็นเห็นชอบให้กับสภาเพื่อพิจารณาหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น คือการแสดงออกว่า นายกรัฐมนตรี ไม่เชื่ออย่างเดียวกันกับประชาชน ความพยายามทั้งหมดที่คนกว่า 14,000 คนได้ร่วมกันลงรายมือชื่อมาก็จะสูญเปล่าทันที
พวกเราต้องช่วยกันสื่อสารและเฝ้ามองท่าทีนี้ของนายกรัฐมนตรีต่อไป เพราะกฎหมายฉบับนี้คือการเริ่มต้นสร้างหลักประกันด้านรายได้เมื่อสูงวัย และเป็นเครื่องมือลดความยากจนเรื้อรังที่สำคัญอย่างหนึ่งของประเทศไทยในอนาคต