วานนี้ (25 พ.ย.2562) นายณรงศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้รับเชิญไปชมภาพยนตร์เรื่อง The cave นางนอน โดยในภาพยนตร์ได้เล่าถึงเหตุการณ์กู้ภัยถ้ำหลวง แต่ใช้วิธีการเล่าผ่านตัวละครคนหนึ่งที่ชื่อ จิม วอร์นี หนึ่งในนักดำน้ำถ้ำ รับหน้าที่พาโค้ชเอกออกมาจากถ้ำ โดยเคลื่อนย้ายจากโถง 6 ออกมาโถง 3 ในวันสุดท้ายของการกู้ภัย แต่ประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์นั้น เกิดจากบางฉากที่ทำให้เห็นอุปสรรคของการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในถ้ำหลวง เนื่องจากติดที่ระบบราชการ เช่นต้องมีใบอนุญาต ต้องติดต่อศาลากลางจังหวัด
หลังจากมีการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง The cave นางนอน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางและทอม วอลเลอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ The Cave นางนอน ก็ได้มีการพูดคุยกันโดยมีบทสนทนา ระบุว่า
นายณรงศักดิ์ : จริงๆ เราไม่ได้ดูภาพยนตร์ เราดูจากตัวอย่าง แต่เราดูว่าตัวอย่างที่ออกมาบางเรื่องมันไม่ได้ตรงกับข้อเท็จจริง แล้วในไลน์ตอนนี้เรียกว่าถล่มกันมาก จริงๆ แล้วมันควรจะเป็นภาพยนตร์ที่สร้างความสามัคคีให้กับทุกคน ให้กับโลกได้ แต่ตอนนี้มุมมองมันต่างออกไป
ทอม : ผมยินดีที่ท่านพูดออกมา แต่อย่างไร เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับจิม วอร์นี หนึ่งในนักดำน้ำถ้ำมากกว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับการกู้ภัยมากกว่า
ภาพ : The Cave นางนอน
นายณรงศักดิ์ : แต่บทมันต้องสื่อให้เห็น ภาพยนตร์ต้องนำเสนอให้เห็นว่ามันโฟกัสอยู่ที่คนๆ เดียว จริงๆ แล้ว หลายเรื่องที่คนทำงานเป็นหมื่นคน หลายคนพูดว่าแล้วที่ประสบความสำเร็จเรื่องอื่นๆ ทำไมมันหายไปจากบท ไม่มีการอ้างถึง แล้วคนอื่นไปไหน
ทอม : แน่นอนมันมีหลายเรื่องที่เล่าได้ และเราก็ได้ข่าวว่ามีหลายเรื่องที่จะสร้างภาพยนตร์จากเหตุการณ์นี้ แต่สุดท้ายไม่ได้สร้าง เหลือแค่เราเรื่องเดียว สุดท้ายคนก็เอาแต่ชี้มือว่า The Cave ไม่มีนี่ ไม่มีนั่น แต่จริงๆ แล้วเราเป็นแค่หนึ่งในหลายเรื่อง
นายณรงศักดิ์ : แต่เวลานำเสนอมา มันควรจะออกมาในมุมมองที่ว่า เป็นโฟกัสของหนึ่งในทีมกู้ภัย ชีวิตที่เขาลำบาก เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าความสามัคคีในโลกนี้ยังมี แต่เราไม่ได้พูดภาพรวมทั้งหมด
ทั้งนี้ ภายหลังจากเหตุการดังกล่าว ทอม วอลเลอร์ ผู้ได้ชี้แจงว่า ในมุมผู้กำกับ ก็ต้องหยิบประเด็นที่อยากจะเล่าออกมาถ่ายทอด ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ตามนักข่าวทั้งหมด และเรื่องนี้ก็เล่ากันมานาน สารคดีก็มีจำนวนมากแล้ว จึงต้องมีบางอย่างที่จะใส่เข้าไปในภาพยนตร์ที่เขียนบทไว้ และรู้สึกว่าคนไทยควรจะรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในเหตุการณ์จริง เช่น ความลำบาก บางคนอยากไปช่วย แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร หรือไม่มีบัตรเข้า
ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะนำไปเล่าตรงนี้ เราก็ไม่ได้เข้าข้างใคร แต่อยากจะสื่อสารว่ามันมีประเด็นในภารกิจนี้ที่จะหยิบยกมาไว้ในภาพยนตร์ได้