วันนี้ (28 พ.ย.62 ) ที่กองบังคับการปราบปราม นางอรุณพร หวังสันติพร อายุ 83 ปี เจ้าของกิจการบริษัท กรุงไทยออดิโอ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตผลงานศิลปินลูกทุ่งดังในอดีต พร้อมด้วยนายวิจิตร บุตรชาย และภรรยา พร้อมทนายความ เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบปราม ขอให้ติดตามความคืบหน้า คดีที่ถูกพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ที่ดูแลเงินฝากอยู่เป็นประจำ ปลอมบัญชีธนาคารยักยอกเงินไปรวมเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท
นางวันวิสาร์ ลูกสะใภ้ เปิดเผยว่า มารดานำเงินไปฝากกับธนาคารแห่งนี้มานานกว่า 40 ปี จนเป็นลูกค้า VIP และรู้จักกับพนักงานธนาคาร ชื่อ น.ส.สุปรียา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารในขณะนั้น กระทั่งเมื่อช่วงปี 2560 น.ส.สุปรียาได้ย้ายไปอยู่ที่สาขาตากสิน และชักชวนให้ย้ายบัญชีมาที่สาขาดังกล่าวเพื่อความสะดวกในการดูแลและจะได้ยอดเงินฝากเป็นผลงาน ด้วยความไว้วางใจจึงยอมโอนเงินมาฝากที่สาขาดังกล่าว
จนกระทั่งเมื่อต้นปี 2561 ผู้จัดการธนาคารได้โทรมาแจ้งว่า ผู้เสียหายทำบัญชีเงินฝากตกไว้ในธนาคาร ทั้งที่บัญชีของตนเองก็ยังอยู่กับตัว จึงไปตรวจสอบพบว่าบัญชีดังกล่าว เปิดในนามของตนจริงแต่ลายเซ็นต์เพื่อเบิกถอนกลับเป็นลายเซนต์ปลอม และจากนั้นไม่กี่เดือนก็ทราบข่าวว่า น.ส.สุปรียาถูกดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์ ในคดีที่ไปยักยอกเงินลูกค้าอีก 4 - 5 คน โดยมีพฤติการณ์เดียวกัน ตนจึงไปแจ้งความกับตำรวจ สน.บุคคโล ให้ดำเนินคดี แต่ผ่านไปกว่า 1 ปีแล้ว คดีก็ไม่มีความคืบหน้าพนักงานสอบสวนอ้างว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบเปรียบเทียบลายเซ็นต์ และติดคดีอื่นอยู่
ส่วนเงินที่ถูกยักยอกได้ไปไกล่เกลี่ยกับธนาคารอยู่นานหลายเดือน จนในที่สุดธนาคารยอมชดใช้คืนให้ประมาณกว่า 10 ล้านบาท อ้างว่าเงินที่เหลืออีกกว่า 3 ล้านบาท ตรวจสอบที่มาที่ไปไม่ได้เป็นบัญชีซ้ำและให้ไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอง ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะลูกค้านำเงินไปฝากตามช่องทางปกติ จะทราบได้อย่างไรว่าบัญชีที่นำเงินไปฝากมีปัญหาจึงอยากร้องขอความเป็นธรรม ให้ตำรวจกองปราบปรามช่วยติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดคดี