เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวฝรั่งเศสหลายแสนคนจากหลากหลายสาขาอาชีพ รวมตัวกันออกมาเดินขบวนตามท้องถนน เพื่อคัดค้านแผนการปฏิรูประบบบำนาญของรัฐบาล ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ซึ่งจะส่งผลให้ครู พนักงานภาครัฐ และผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ ต้องเกษียณอายุช้ากว่าเดิมและได้รับผลตอบแทนน้อยลง
โดยผู้ประท้วงจุดไฟเผารถยนต์และทรัพย์สินสาธารณะต่างๆ ในกรุงปารีส พร้อมทุบทำลายอาคาร ระหว่างการประท้วงที่กลายเป็นเหตุจลาจล
เฉพาะในกรุงปารีส คาดว่ามีผู้ประท้วงออกมาเคลื่อนไหวมากกว่า 250,000 คน ท่ามกลางความพยายามของเจ้าหน้าที่ที่ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม แต่ไม่เป็นผล
เหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ทางการฝรั่งเศสสั่งปิดหอไอเฟลชั่วคราว และยังกระทบต่อระบบคมนาคม ทั้งรถไฟใต้ดิน รถไฟระหว่างเมืองและรถไฟความเร็วสูง ขณะที่มีรายงานเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวถูกยกเลิก
นอกจากนี้ เหตุปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุมยังเกิดขึ้นในอีกหลายเมือง โดยในเมืองน็องต์ ทางตะวันตกของฝรั่งเศส ตำรวจได้จับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมที่ขว้างปาข้าวของ ทำลายทรัพย์สิน กระจกหน้าต่างอาคารและจุดไฟเผาสถานที่ต่างๆ
ล่าสุด สมาพันธ์แรงงานฝรั่งเศส ประกาศขยายเวลาการหยุดงานประท้วงของพนักงานที่ทำงานในระบบขนส่งออกไปจนถึงวันที่ 9 ธ.ค.นี้