วันนี้ (6 ธ.ค.2562) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่สื่อนำเสนอข่าวเหตุครูผู้ชายโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ใช้ฝ่ามือตบศีรษะนักเรียนหญิงอย่างรุนแรง หลังพบว่านักเรียนหญิงได้เดินไปซื้อสินค้าที่ร้านสหกรณ์โรงเรียน ก่อนเข้าเรียนในรายวิชาของครูคนที่ก่อเหตุสอน ก่อนที่ครูผู้ชายคนนี้จะเรียกนักเรียนหญิง แต่นักเรียนไม่ได้ยิน จึงไม่ได้ตอบรับ และครูผู้ชายยังพูดจาด้วยถ้อยคำไม่สุภาพด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2562 นั้น
ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองอุดรธานี ว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นนั้น ยังไม่มีผู้ใดผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด โดยการกระทำในลักษณะดังกล่าวเข้าข่าย ความผิดฐาน ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นความผิดที่มีโทษทางอาญา ผู้เสียหายสามารถมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายได้
รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น ต้องขอความร่วมมือผู้เกี่ยวข้องทุกคน รวมถึงผู้บริหารโรงเรียน ครู ผู้ปกครอง และตัวนักเรียนเอง ต้องช่วยกัน งดใช้ความรุนแรงภายในโรงเรียนและในชุมชน พร้อมเพิ่มมาตรการในการป้องกันความรุนแรง ในเด็กและเยาวชนคือ
1.ในระดับครอบครัว พ่อแม่ต้องรักลูกให้ถูกทาง แสดงความรักอย่างถูกต้องเหมาะสม เปิดใจ คุยปัญหาได้ทุกเรื่อง อบรมให้ลูกแยกแยะผิดถูกชั่วดีได้ สอดส่องพฤติกรรมและดูแลลูกอย่างใกล้ชิดให้มากขึ้น
2.ระดับสถานศึกษา ครูอาจารย์ ต้องเป็นเหมือนพ่อแม่อุปถัมภ์ เปิดใจคุยปัญหาได้ทุกเรื่อง ติดตามเยี่ยมบ้านอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังเด็กที่เริ่มมีผลการเรียนตกต่ำหรือใช้สารเสพติด ปลูกฝังความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สนับสนุนให้เกิดระบบเพื่อนช่วยเพื่อน เตือนกันเมื่อเพื่อนจะทำผิด ชักจูงให้เปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ส่งเสริมให้ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ที่เกิดจากความต้องการของเด็กเอง เพื่อให้พวกเขารู้สึกถึงความมีคุณค่าในตนเอง เกิดการยอมรับในกลุ่มเพื่อน ได้ระบายออกถึงแรงขับความรุนแรงที่มีอยู่ภายใน
เพราะการใช้ความรุนแรงอาจสั่งสม พฤติกรรมของเด็และเยาวชน นำไปสู่การก่ออาชญากรรม เช่น ปล้นจี้ ทำร้ายร่างกายแล้วชิงทรัพย์ หรือข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งอาจถูกจับดำเนินคดีอาญา หรือ การใช้อาวุธ เช่น ปืน มีด ทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ หรือ เหตุการณ์ที่ใช้ความรุนแรง ของกลุ่มวัยรุ่น เช่น ยกพวกตีกัน ปัญหาระหว่างสถาบัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่นในหลายๆ ด้าน เช่น การเรียนตกต่ำ เรียนไม่ทันเพื่อน มีความเสี่ยงที่จะต้อง หยุดเรียนกลางคัน มีเจตคติต่อต้านสังคม มีความก้าวร้าวและวิตกกังวล ได้รับการปฏิเสธ จากการเข้ากลุ่มเพื่อนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ และพฤติกรรมความรุนแรงได้ หรือ การทำผิดกฎหมาย มีประวัติที่มัวหมอง มีคดีติดตัว มีปัญหาเรื่องความประพฤติ ระเบียบวินัยกับโรงเรียนถูกพักการเรียน หรือถูกไล่ออก เกิดความซึมเศร้ารุนแรง เสพสารเสพติดและ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่น เป็นภาระแก่สังคม
อย่างไรก็ตาม ขอเป็นกำลังใจให้ครูทุกท่าน เพราะอาชีพครูถือเป็นงานหนัก ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้เรียน ในอบรมสั่งสอนบ่มเพาะให้ศิษย์ นักเรียน เยาวชน เป็นผู้มีความรู้ มีระเบียบวินัย มีจิตใจและจริยธรรมที่ดีงาม จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ในการหามาตรการในการแก้ไข ปรับปรุง พฤติกรรมที่ไม่ดี ด้วยวิธีการอันสร้างสรรค์และส่งเสริมการเรียนรู้ ด้วยปัญญา ลดพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงภายในสถานศึกษา