วันนี้ (14 ธ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในบ้าน 2 ชั้น ย่านโชคชัย 4 มีเสียงเครื่องจักร และแรงงานไม่ต่ำกว่า 7 คน กำลังเร่งทุบผนังบ้านปรับปรุงใหม่ ทีมข่าวไทยพีบีเอสติดตามนางประมูลศรี บ้านขำ หรือ ป้าบัว อายุ 53 ปี มารับงานก่อสร้าง แบกหาม ทุบอาคาร แลกกับค่าแรง 500 บาทต่อวัน เพื่อนำเงินไปเป็นค่าอาหาร ค่าเล่าเรียนหลานอีก 5 คน พบว่ามีคนเก็บของเก่าถึง 4 คน ที่มาทำงานก่อสร้าง
ป้าหยุดขับซาเล้งมา 5 วันแล้ว ของเก่ามันขายไม่ได้ราคา ราคามันตกมาก ป้าเคยขายได้วัน 500-700 บาท ตอนนี้ได้ไม่ถึง 100 กว่าบาท
ระหว่างอาชีพกรรมกรกับเก็บของเก่าขาย อาชีพไหนทำงานหนักกว่ากัน นางประมูลศรี บอกว่า หากเป็นเมื่อก่อนไม่เคยคิดจะมาทำงานก่อสร้าง เพราะงานหนักกว่ากันหลายเท่าตัว ต้องใช้แรง ไม่มีเวลาพักต้องทำงานต่อเนื่อย แต่วันนี้จำเป็นต้องมาทำแล้ว เพราะรายได้จากการเก็บของเก่าไม่พอใช้
ไม่ใช่มีแค่นางประมูลศรีเท่านั้นที่ต้องดิ้นรนหาทางรอดในวันที่ขยะไทยไร้ค่า นางทัศนีย์ โพธิ์ศรี อายุ 55 ปี เก็บของเก่ามากว่า 30 ปี วันนี้ก็มารับจ้างเข็นรถปูน จากที่เคยขับซาเล้ง เธอเล่าว่า ขยะที่เคยซื้อมา ขายไปราคาไม่ดี ตอนนี้ย่ำแย่ ปัญหาที่จะตามมาหลังจากซาเล้งไม่เก็บขยะมาขาย เชื่อว่าจะเกิดปัญหาขยะล้นสังคม
ขยะที่ป้าไม่เก็บ ป้าก็เห็นเขากองไว้หน้าบ้าน ป้าก็ไม่อยากเก็บ เพราะไม่ได้ราคา ป้าก็ต้องหาทางเอาตัวรอด ภาระเราเยอะ
นางสี คืออีก 1 คน ที่ต้องมาทำงานก่อนสร้าง เธอบอกว่า เก็บขยะขายมา 13 ปี ขยะไทยไม่ได้ลดน้อยลง ซาเล้งยังจำเป็นกับสังคมไทย เพราะจะทำหน้าที่ในการคัดแยกขยะไปในตัว แต่ตอนนี้กลับขาดแรงจูงใจเก็บขยะ เมื่อเพื่อนกลุ่มซาเล้ง ชวนมาทำงานก่อสร้าง จึงมาทำ เพราะหากจะเก็บของเก่าขายได้ 500 บาทต่อวัน แทบเป็นไปไม่ได้แล้ว
หนี้เราเยอะ รายได้ไม่พอเลี้ยงปากท้อง ขยะราคาตก ป้าก็ไม่รู้จะไปขอให้ใครช่วย ขยะไทยล้นเมือง แต่ทำไมไม่มีค่าขนาดนี้
เมื่อถามว่าจะกลับมาเก็บของเก่าขายอีกครั้งใหม่ พวกก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า หากราคาขยะกลับมาดีเหมือนเดิมถึง จะกลับมาเพราะผูกพันกับอาชีพนี้ แต่หากราคายังลดลงถึงร้อยละ 50 ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนอาชีพไปเลย