วันนี้(22ธ.ค.2562) กลุ่มซาเล็ง-รถปิกอัพและผู้ประกอบการร้านรับซื้อขายของเก่าทั่วประเทศ ร่วมแถลงข้อเรียกร้อง ณ โรงแรมเบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ อมาแรนธ์ สุวรรณภูมิ กรณีได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคาขยะ ประเภทกระดาษ ขวดพลาสติกตกต่ำ จนถึงปัจจุบันแถบไม่มีราคา
น.ส. ณัฐธิดา ฤกษ์ยรรยงค์ หนึ่งในซาเล็งผู้รับซื้อของเก่ามากว่า10ปี เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เช่น ราคากระดาษ ราคาขายให้โรงงานจากกิโลกรัมละ6-8บาท ขณะนี้โรงงานรับซื้อเพียง กิโลกรัมละ50 สตางค์ ถึง1บาท ส่วนขวดพลาสติก จากกิโลกรัมละประมาณ 12 บาท ราคารับซื้อหน้าโรงงานเหลือ 3-4บาท ทำให้เกิดผลกระทบ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย บางรายแถบปิดกิจการ
นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการร้านรับซื้อของเก่า จาก จ.นครสวรรค์ สะท้อนถึงสาเหตุที่ราคาขยะในประเทศตกต่ำ อาจมาจากการนำเข้าขยะจากต่างประเทศชนิดคัดแยกแล้ว ทำให้การรับซื้อกระดาษและขวดพลาสติก จากโรงหลอมในไทยลดลงและถูกกดราคา ส่งผลกระทบไปถึงคนรากหญ้า ที่ยึดอาชีพเก็บของเก่าขาย เพราะราคารับซื้อจะสูงกว่าโรงหลอมกระดาษไม่ได้ เพราะผู้ประกอบการรายย่อยไม่สามารถแบกรับภาระไว้ได้เช่นกัน จึงต้องการให้หน่วยงานกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมช่วยหามาตรการ ดูแลหยุดการนำเข้าขยะจากต่างประเทศ หรือจำกัดโควต้าการนำเข้าขยะ และตรวจสอบสิ่งเจือปนค่าไม่เกินมาตรฐานก่อนนำเข้า ฯลฯ
โดยวันที่ 24 ธ.ค.นี้ ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าของเก่าจะนำเอกสาร ผู้ร่วมอาชีพกว่า1 หมื่นรายทั่วประเทศไปยื่นต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอให้ช่วยเหลือหาทางแก้ไขต่อไป