วันนี้ (27 ธ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ มีผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกจำนวนมาก โดยนายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ คาดว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 จะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยต่อวันประมาณ 36,000 คน
ส่วนในช่วงคืนวันที่ 31 ธ.ค.2562 ถึงวันที่ 1 ม.ค.2563 หน่วยงานหรือสถานประกอบการต่างๆ อาจขออนุญาตจุดพลุหรือปล่อยโคมลอยเพื่อเฉลิมฉลอง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย สายการบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศได้ยกเลิกเที่ยวบิน จำนวน 54 เที่ยวบิน คิดเป็นร้อยละ 24 ของจำนวนเที่ยวบินทั้งหมด และเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบิน 37 เที่ยวบิน โดยจะทำการบินให้แล้วเสร็จภายในเวลา 19.00 น. ซึ่งจะกระทบกับผู้โดยสารประมาณ 16,000 คน
พาน้ำพริกกลับบ้าน
ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว จ.เชียงใหม่ นิยมซื้ออาหารพื้นเมืองเป็นของฝากกลับบ้าน เช่น น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง และแกงฮังเล แต่หลังออกประกาศ "หลักเกณฑ์การตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ ที่จะนำขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยาน หรือเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ พ.ศ.2562" ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้นำขึ้นเครื่องเป็นสัมภาระติดตัวได้ แต่ต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร หากมากกว่านั้นต้องโหลดไว้ใต้ท้องเครื่อง
ท่าอากาศยานเชียงใหม่จึงได้จัดโครงการ “พาน้ำพริกกลับบ้าน” ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.2562 ถึงวันที่ 2 ม.ค.2563 เป็นของขวัญให้แก่ผู้โดยสารในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยแจกจ่ายบรรจุภัณฑ์มาตรฐานที่มีปริมาตรความจุ 100 มิลลิลิตร เพื่อให้ผู้โดยสารใช้ใส่อาหาร โดยเฉพาะน้ำพริกหนุ่ม เพื่อให้สามารถนำขึ้นไปบนห้องโดยสารอากาศยานได้ เพราะแต่ละวันท่าอากาศยานเชียงใหม่ต้องนำไปทิ้งไม่ต่ำกว่า 150 ชิ้น