วันนี้ (7 ม.ค.2563) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ไทรอยด์เป็นพิษ คือภาวะที่ต่อมไทรอยด์หลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามากเกินไป เมื่อร่างกายมีปริมาณฮอร์โมนมากเกินความต้องการ จะมีสภาวะเป็นพิษจนส่งผลต่อร่างกายในด้านต่างๆ เป็นสาเหตุให้เกิดอาการเจ็บป่วย เช่น เหนื่อยง่าย ใจสั่น ขี้ร้อนง่าย เหงื่อออกมาก หงุดหงิด หรือนอนไม่หลับ
โรคไทรอยด์เป็นพิษมักพบได้บ่อยในผู้หญิง มากกว่าผู้ชาย 5-10 เท่า หากผู้ป่วยมีภาวะไทรอยด์เป็นพิษที่ไม่รุนแรง อาจไม่มีอาการแสดงใดๆ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ไม่ค่อยแสดงอาการอย่างชัดเจนมากนัก จึงต้องหมั่นสังเกตและตรวจเช็คอาการป่วยที่ตัวเองเป็น หากพบว่ามีอาการที่สุ่มเสี่ยงจะเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สั่งสอบปม 4 ผู้ต้องขังเสียชีวิตในเรือนจำ
แนะเช็กสัญญาณเสี่ยงโรคไทรอยด์เป็นพิษ
ด้าน นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อานวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ไทรอยด์เป็นพิษมักมีอาการคอพอก ซึ่งเป็นอาการที่ต่อมไทรอยด์โตขึ้น ผู้ป่วยจะรู้สึกหรือเห็นก้อนขนาดใหญ่ที่บริเวณคอ ส่วนในรายที่มีอาการตาโปนร่วมด้วยเรียกว่า โรคคอพอกตาโปน พบได้บ่อยที่สุดประมาณร้อยละ 60-80 ของผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษทั้งหมด
อาการโดยทั่วไปจะเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ใจสั่น มือสั่น ขี้ร้อน อาจมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด ร่างกายมีการเผาผลาญสูงกว่าปกติ น้าหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว บางรายอาจมีอาการถ่ายเหลวบ่อยคล้ายท้องเสีย กล้ามเนื้ออ่อนแรงโดยเฉพาะต้นแขนและต้นขา ภาวะแทรกซ้อนของโรคนี้
ในบางคนที่เป็นเรื้อรังจะเกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูง ทำให้กระดูกอ่อนแอ กลายเป็นโรคกระดูกพรุน เพราะร่างกายมีฮอร์โมนไทรอยด์มากไป จนส่งผลต่อความสามารถในการดูดซึมแคลเซียม แม้จะเป็นเพียงในบางคนและพบไม่บ่อยมากนัก แต่ควรระวังไว้
ภาวะที่ไทรอยด์เป็นพิษขั้นวิกฤต ผู้ป่วยจะมีอาการหัวใจเต้นเร็วมากผิดปกติ มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส อาเจียน ท้องเสีย ตัวและตาจะเหลือง สับสนมึนงงอย่างรุนแรง มีภาวะขาดน้ำและอาจช็อก
ภาพ:กรมราชทัณฑ์
นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางคนที่ตรวจพบไประยะท้ายๆ อาจมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจวาย สาเหตุมาจากหัวใจเต้นเร็วและเต้นผิดจังหวะ ดังนั้นเมื่อพบว่ามีอาการดังกล่าวข้างต้นควรรีบพบแพทย์ เพราะถ้าเป็นไทรอยด์เป็นพิษแล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทาให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต
ข้อมูลจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า 9 สัญญาณเตือนไทรอยด์เป็นพิษ
- น้ำหนักตัวลด
- ใจสั่น
- หงุดหงิดง่าย
- ชีพจรเต้นเร็ว มือสั่น
- ตาโปน ผมร่วง
- ขี้ร้อน เหงื่อออกมาก
- ต่อมไทรอยด์บริเวณลำคอโตขึ้น
- ถ่ายอุจจาระบ่อย
- ขาสองข้างอ่อนแรง (ไม่พบบ่อย)
กรมราชฑ์ลงพื้นที่เรือนจำพิษณุโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (6 ม.ค.) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จากกรณีมีผู้ต้องขังป่วยเสียชีวิตในช่วงปีใหม่ไล่เลี่ยกันถึง 4 คน ที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า อาจเกิดจากการโรคไทรอยด์เป็นพิษ ซึ่งจากอาการและผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของผู้ต้องขังที่เข้ารักษาจากโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก และโรงพยาบาลวังทอง โดยบางคนมีภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำร่วมด้วย ทั้งนี้ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับญาติ และผู้ต้องขังกว่า 3,000 คนให้คลายความวิตกกังวล
ส่วนประเด็นรายละเอียดในเรื่องของอาหาร ที่มีข้อสันนิษฐานทางการแพทย์ว่าอาจเป็นสาเหตุของโรคดังกล่าว อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ได้ร่วมกับหัวหน้าผู้ตรวจกรมราชทัณฑ์ ได้ตรวจสอบอาหารที่นำมาส่ง โดยได้พบว่าอาหารดังกล่าวไม่สด จึงได้พูดคุยกับผู้ประกอบการที่มาส่งให้แก้ไขปรับปรุง ทั้งนี้ จะได้รอรายงาน การตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะที่ทางสาธารณสุขได้เจาะเลือดตรวจคัดกรองผู้ต้องขังไปแล้วกว่า 3,000 คน พบมากกว่า 600 คน มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูง ในจำนวนนี้ มีกลุ่มที่อาการค่อนข้างหนัก คือ มีภาวะหัวใจเต้นเร็วมาก 130-140 ครั้งต่อนาที จากคนปกติหัวใจเต้นอยู่ที่ 80 ครั้งต่อนาที มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลแล้วจำนวน 24 คน ส่วนผู้ต้องขังอีกประมาณ 600 คน ที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง คือ มีอาการหัวใจเต้นเร็ว แต่ไม่มีอาการอื่นร่วม ในวันนี้จะเจาะเลือดทุกคนซ้ำอีกเพื่อติดตามอาการ ร่วมกับการให้ยารักษาอย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"สมศักดิ์" สั่งตั้งคณะกรรมสอบปม 4 ผู้ต้องขังป่วยไทรอยด์เสียชีวิต
ญาติแห่ถามข่าว หลังผู้ต้องขังเรือนจำพิษณุโลกป่วยตาย 4 คน