เมื่อวานนี้ (14 ม.ค.2563) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้มีการควบรวมกิจการของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ให้เป็นบริษัทตั้งใหม่ในชื่อ "บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (National Telecom: NT Co.)" หรือ NT โดยมีกระทรวงการคลังถือหุ้นทั้งหมด โดยให้ดำเนินการควบรวมบริษัทให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ และรายงานความคืบหน้าให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ทราบทุกเดือน
ทั้งนี้ ให้บริษัท NT ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่ใช้กับรัฐวิสาหกิจทั่วไปมาใช้บังคับในหลักการเดียวกันกับที่ บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท ได้รับเมื่อแปลงสภาพเป็นบริษัทจำกัด ตามพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2542 ส่วนเงินเดือนค่าจ้าง ค่าตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ มากำหนดขอบเขตสภาพการจ้าง ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
สนับสนุนนโยบายรัฐด้านดิจิทัลและความมั่นคง
นอกจากนี้ ยังให้บริษัท NT สามารถจัดซื้อจัดจ้างในลักษณะการจัดซื้อจัดจ้างระหว่างภาครัฐ (G2G) ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป และเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัท NT ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) พิจารณานำเสนอคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาความเหมาะสมในประเด็นการกำหนดให้บริษัท NT เป็นผู้สนับสนุนนโยบายของรัฐในการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและความมั่นคง รวมทั้งบริการเพื่อสังคมอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยให้รัฐสนับสนุนคลื่นความถี่ที่เหมาะสมในการทำภารกิจดังกล่าว
ยุบเลิก NBN-NGDC รับ พนง.กลับเข้าทำงาน
นางนฤมล กล่าวอีกว่า ครม.ยังเห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2560 ซึ่งมีผลให้ยุบเลิก บริษัท โครงข่าย บรอดแบนด์แห่งชาติ จำกัด (บริษัท NBN) และบริษัทโครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด (บริษัท NGDC) โดยให้ บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท รับพนักงานที่ลาออกไปทำงานที่บริษัท NBN และบริษัท NGDC ให้กลับเข้าทำงานใน บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท ในระดับเดิม และได้สิทธิประโยชน์เท่าที่ได้อยู่เดิมในวันที่ลาออกไปอยู่บริษัท NBN และบริษัท NGDC และให้นับอายุงานต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ครม.ยังเห็นชอบหลักการและแนวทางการถือหุ้นของ บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท ในบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (บริษัท INET) ตามที่เสนอ และให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป