วันนี้ (19 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีหมายจับของ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จำเลยในคดีร่วมเป็นแกนนำ นปช.บุกขัดขวางการประชุมอาเซียนฯ เมื่อปี 2552 ที่พัทยา ว่า สำนักงานศาลยุติธรรมได้เชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลหมายจับกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลจังหวัดพัทยาได้ออกหมายจับ แต่มีปัญหาพนักงานสอบสวนติดตามตัวไม่ได้ จะอ้างว่ายังไม่ได้รับหมายจับได้หรือไม่ ซึ่งตามขั้นตอนเมื่อศาลออกหมายจับแล้ว เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะติดตามตัวจำเลยมา
ส่วนการบันทึกข้อมูลหมายจับที่ผ่านมา ได้กำชับให้บันทึกข้อมูลปัจจุบันทันที เพื่อให้ถึงหน่วยงานที่รับข้อมูลต่อ โดยปัญหาเรื่องนี้เห็นว่าจะต้องมีการหารือเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันในการปฏิบัติ เพราะอาจเป็นเรื่องใหม่ ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรก็จะมีการหารือเกี่ยวกับการแจ้งข้อมูลที่ ส.ส.ถูกดำเนินคดีอาญาเช่นกัน เพราะอาจมีกรณีที่ ส.ส.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีตัวอย่างก่อนหน้านี้ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้แจ้งให้สภาฯ ทราบเมื่อมีคดีตัดสิทธิ์ ส.ส. เพราะก่อนหน้านี้ในส่วนของ ป.ป.ช.ก็เคยหารือกับศาลแล้วที่ต้องแจ้งข้อมูลให้ทราบเมื่อมีเจ้าหน้าที่ของรัฐถูกดำเนินคดีอาญา เพราะตามกฎหมายบางกรณีจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
ส่วนเรื่องหมายจับที่ยังโต้แย้งกันว่าแม้มีข้อมูลหมายจับออนไลน์ยังต้องใช้หมายจับที่เป็นกระดาษแสดงเมื่อเข้าจับกุมหรือไม่นั้น ก็จะต้องประชุมหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อบูรณาการแนวทางปฎิบัติ เพราะส่วนหนึ่งอาจเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย แต่ขอย้ำว่าในส่วนของสำนักงานศาลยุติธรรมได้สั่งการให้ออกหนังสือเวียนให้ลงข้อมูลทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ออกหมายจับ "พ.ต.ท.ไวพจน์" คดีล้มประชุมอาเซียนฯ ปี 52
คดีผู้พิพากษายะลายิงตัวเองอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ก็ได้เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (กต.) มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นานคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง เมื่อปลายปี 2562 ว่า นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและสอบวินัยแล้ว โดยมีการทำอย่างตรงไปตรงมาและไม่มีการกดดัน
ในส่วนคดีอาญา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา ได้ขออนุญาตประธานศาลฎีกาดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ซึ่งขณะนี้ครบกำหนดระยะเวลาฝากขังแล้ว แต่พนักงานอัยการยังไม่ได้มีการยื่นฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดยะลา ซึ่งการดำเนินคดีอาญากับการสอบสวนทางวินัยจะทำควบคู่กันไป ขณะที่ปัจจุบันนายคณากรยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในกองผู้ช่วยในศาลอุทธรณ์ภาค 5 และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้พิพากษายะลา ยิงตัวเองในห้องพิจารณาคดี
ก.ต.ตั้ง กรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณี "คณากร เพียรชนะ"