วันนี้ (4 มี.ค.2563) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงแนวทางการเสนอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อรับฟังความเห็นนักศึกษาว่า เป็นเรื่องที่สามารถทำได้สมมติว่าสมาชิกวุฒิสภาเข้าชื่อจำนวน 250 คน จากนั้นหากมี ส.ส.มาลงชื่ออีกเพียง 1 คน ก็สามารถเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้แล้ว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 123
เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ที่จะเสนอให้ประกาศพระราชกฤษฎีกาเพื่อเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ได้ กรณีอยากรับฟังความเห็นของสมาชิกรัฐสภา ทุกฝ่ายจึงควรหารือกัน ส่วนประธานรัฐสภาไม่มีสิทธิเสนอเอง เว้นแต่มีการเสนอเข้ามา แล้วประธานรัฐสภาก็จะเสนอเรื่องไป แต่ก็ได้มอบหมายให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเตรียมการเผื่อไว้แล้ว
ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาที่เกิดขึ้น ถึงขั้นต้องใช้กลไกรัฐสภาแล้วหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ปกติถ้าเป็นสมัยประชุมก็ไม่ค่อยมีปัญหา สามารถเสนอญัตติได้ในระเบียบวาระ แต่เมื่อปิดสมัยประชุม กระบวนการทั้งหลายจะทำได้เมื่อเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ซึ่งมีกฎหมายบังคับไว้ชัดเจน
แต่ฝ่ายที่สามารถดำเนินการได้สะดวกที่สุดคือฝ่ายบริหาร ส่วนกระบวนการ พูดคุยกันระหว่างคู่ขัดแย้งอันนั้นเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง แต่รัฐสภามีหน้าที่อำนวยความสะดวก งตามความต้องการของแต่ละฝ่ายได้ หาก ส.ส.หรือ ส.ว.ต้องการจะเสนอ ก็สามารถหารือกับฝ่ายรัฐบาลได้ ซึ่งจะเป็นเรื่องดีหากร่วมมือแก้ปัญหาการโดยส่วนรวม
ส่วนแนวทางการป้องกัน COVID-19 ในพื้นที่รัฐสภา นายชวนกล่าวว่า สมาชิกมีการเสนอญัตติเพื่อหารือเรื่องนี้แล้ว แต่ขณะนี้อยู่นอกสมัยประชุม แต่เบื้องต้นสั่งให้คณะกรรมาธิการงดเดินทางศึกษาดูงานต่างประเทศ เพราะใช้งบหลวง แต่ไม่รวมถึงการเดินทางส่วนตัว ไม่มีสิทธิไปห้าม
ทั้งนี้เมื่อกลับมาจากต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เป็นเรื่องฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุข หากมาจากประเทศเสี่ยงก็อาจจะถูกดำเนินการตามขั้นตอน พร้อมย้ำว่า เชื่อมือบุคลากรสาธารณสุขของไทยที่มีประสิทธิภาพสูง ดูแลได้ดีกว่าหลายประเทศ และเบื้องต้นขณะนี้ไม่มีสมาชิกที่เข้าข่ายต้องกักตัว
นายชวน ยังชี้แจงกรณีพระราชกฤษฎีกาจ่ายเงินเดือนย้อนหลังให้ ส.ส. 2 เดือน ทั้งที่ยังไม่เข้าทำหน้าที่ โดยนับย้อนหลังไปถึงวันเลือกตั้งว่า การตีความเรื่องนี้ จบไปแล้วเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งผู้วินิจฉัยไม่ใช่ฝ่ายของสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นฝ่ายบริหาร ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปแล้ว ยืนยันว่าผลการวินิจฉัยไม่ได้เป็นประโยชน์เพื่อฝ่ายใด แต่เป็นไปตามกฎหมาย