วันนี้ (8 มี.ค.2563) กระทรวงสาธารณสุขแถลงความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ไทยมีผู้ป่วย COVID-19 สะสมคงเดิม 50 คน กลับบ้านเพิ่ม 2 คน รวม 33 คน อาการวิกฤต 1 คน เสียชีวิต 1 คน โดยมีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 4,366 คน กลับบ้านแล้ว 2,629 คน
ทั้งนี้ ภาครัฐยังคงใช้มาตรการคัดกรองเข้มข้นผู้เดินทางจากต่างประเทศที่มีการแพร่ระบาด เฝ้าระวังในกลุ่มที่ทำอาชีพใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยว รวมทั้งโรงพยาบาลทุกจังหวัดได้เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาด พร้อมขอความร่วมมือประชาชน ชุมชน สถานประกอบการในการออกมาตรการป้องกันและควบคุมโรค
นอกจากนี้ ผู้ที่เดินทางมาจากจีน เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน ต้องลงทะเบียนข้อมูลโดยละเอียด และแจ้งอาการตามความเป็นจริงทุกวัน 14 วัน ผ่านช่องทางที่สะดวก เช่น แอพพลิเคชั่น โดยขอให้อยู่ในที่พักเป็นเวลา 14 วัน หลัง สธ.ประกาศเขตติดโรคติดต่ออันตราย 4 ประเทศ
ขออย่าตีตราผู้ป่วย-ผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง
ส่วนความกังวลและตีตราผู้ป่วย หรือรังเกียจผู้ป่วยเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น มีการแสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์อย่างรุนแรง พร้อมยกตัวอย่างที่นายลี เซียน หลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ระบุว่า ความกลัว หรือตื่นตระหนก จะทำอันตรายมากกว่าเชื้อไวรัส โดยขออย่าตีตราและเข้าใจกันเพื่อให้ผ่านความยากลำบากในครั้งนี้ เพราะต้องต่อสู้กับโรคดังกล่าวไปอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขดำเนินมาตรการและควบคุมโรคได้อย่างเต็มที่
รู้ว่าเราควรทำตัวอย่างไรถึงจะไม่ติดโรค ขอให้เข้าใจเกี่ยวกับการแพร่โรค และอย่าตื่นตระหนก หรือตีตราผู้ป่วย หรือผู้สัมผัสโรค
เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) ได้เริ่มคัดกรองแรงงานในเกาหลีใต้ 4 ไฟล์บิน โดยแรงงานไทยให้ความร่วมมือทุกคนในการเข้าไปสถานที่ตรวจอาการ ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของประเทศ และครอบครัวแรงงานที่กลับจากเกาหลีใต้ เพราะหากอยู่ในสถานที่ที่สังเกตอาการโอกาสแพร่เชื้อแทบจะเป็นศูนย์ โดยได้ดำเนินการด้วยความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกัน
อยากให้มองว่ามาตรการนี้ทุกคนชนะ เพราะรับมาสังเกตอาการตอนที่ยังไม่ป่วย แต่หากมีอาการป่วยจะเข้ารักษาทันที โอกาสแพร่เชื้อจากสถานที่แทบไม่มีเลย ขออย่าตั้งแง่รังเกียจ และเปลี่ยนเป็นความร่วมมือกัน
เริ่มคัดกรอง "แรงงาน" ตั้งแต่ต้นทางเกาหลีใต้
ส่วนข้อมูลคนไทยในเกาหลีใต้ 200,000 คน ที่เริ่มทยอยกลับไทยมาบ้างแล้วนั้น สำหรับผู้ที่กำลังจะเดินทางกลับไทย จะเริ่มกระบวนการคัดกรองตั้งแต่เกาหลีใต้ โดยลงทะเบียนที่สถานทูตไทย ระหว่างรอเอกสารแล้วเสร็จขอให้พักอยู่ที่บ้าน ไม่ออกไปสถานที่สาธารณะ ก่อนกลับไทยจะต้องตรวจสุขภาพ 1 ครั้ง และตรวจคัดกรองอีกครั้งก่อนขึ้นเครื่อง เมื่อเดินทางถึงไทยจะต้องถูกคัดกรอง หรือกักตัวเฝ้าระวังโรคอย่างเหมาะสม ยืนยันคำนึงถึงสุขภาพของประชาชนในประเทศไทย
สถาบันบำราศฯ รับสมัครนักรังสี
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ตอบประเด็นสื่อออนไลน์แชร์รับอาสาสมัครนักรังสีปฏิบัติในช่วงการแพร่ระบาด COVID-19 ว่า มีการประกาศรับสมัครงานนักรังสีที่สถาบันบำราศนราดูรจริง โดยเป็นการรับสมัครงานตามปกติ ไม่ใช่อาสาสมัคร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ
ขณะที่ นพ.สุเทพ เพชรมา ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 6 กล่าวว่า การดูแลกักโรคจะเป็นไปตามมาตรการและจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้เดินทางจากเกาหลีใต้ และเขตติดโรคติดต่ออันตราย ยืนยันว่าจะดูแลให้ทุกคนปลอดภัย ทั้งผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และประชาชนที่อยู่ภายในประเทศ โดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย ได้จัดสถานที่รองรับในหลายจังหวัดแล้ว