วันนี้ (3 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีมติอนุมัติหลักการบรรจุข้าราชการ กระทรวงสาธารณสุข 45,684 ตำแหน่ง เพื่อความมั่นคงของการสาธารณสุขไทย และสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงานด้าน COVID-19
ทางเพจเฟซบุ๊ก Covid-19 Thailand FACT ได้นำเบื้องหลังข้อความที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เขียนด้วยลายมือจำนวน 7 หน้าเพื่อนำเสนอที่ประชุม ครม.ว่า
กว่า ครม.จะผ่านข้อเสนอให้พนักงาน สธ.เป็น ขรก.เสริมแกร่งทัพหน้าสู้ Covid-19 รมต.หนู ต้องเขียนจนมือหงิก เพราะรมต.อนุทิน ไม่ใช่คนที่พูดเก่งนัก และมีบทเรียนจากการพูดมาหลายครั้ง ในรอบ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา จึงเลือกที่ยิ้มแทนการพูด หรือถ้าพูดก็จะพูดให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการตีความไปในทางลบ แต่ในที่ประชุม ครม.วันที่ 3 เม.ย.รองฯหนู จำเป็นต้องพูด และการพูดครั้งนี้จะพลาดไม่ได้ เพราะมีอนาคตของบุคลากร สธ.เป็นเดิมพัน
เพราะ รมต.อนุทิน ต้องเสนอเรื่องบรรจุพนักงาน ขรก.การแพทย์ ให้ไปเป็น ขรก.ตัวจริง สร้างขวัญกำลังใจคนหน้างานใจหนึ่งก็กลัวสื่อสารผิด นายกฯ และครม.จะฟังแล้วไม่อิน ก่อนประชุม รมต.อนุทิน หยิบกระดาษขึ้นมาเขียนทุกอย่างที่อยากจะพูด
วันนี้มีเรื่องของกระทรวงสาธารณสุขอยู่ 7 เรื่องที่เกี่ยวกับการเยียวยาโควิด 19 แต่ผมจะขอนำเสนอด้วยตนเองในเรื่องที่ 3 คือเรื่องการขอบรรจุข้าราชการเพิ่มเติม จากที่เป็นพนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข และลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนนี้ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลสถานการณ์ จำนวน 45,684 คน
จากบุคลากรประเภทนี้ที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุขประมาณ 160,000 คน แต่ผมขอความกรุณา คณะรัฐมนตรีอย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องจำนวนบุคลากรเหล่านี้ ล้วนเป็นบุคลากรวิชาชีพ อาทิเช่น แพทย์พยาบาล เภสัชกร นักเทคนิคการแพทย์ เป็นบุคลากรที่มีทักษะ และได้รับการอบรมเป็นอย่างดี ประเทศจะต้องรักษา ให้ระบบสาธารณสุข คงจำนวนบุคลากรเหล่านี้ ให้อยู่ในระบบอย่างยั่งยืน
แต่ด้วยข้อจำกัดต่างๆของกลไกราชการ บุคลากรเหล่านี้ มีสภาพเป็นเพียงพนักงานหรือลูกจ้างของรัฐ กระทรวงสาธารณสุข ใช้เงินบำรุง ของแต่ละโรงพยาบาล มาว่าจ้าง ทำให้เกิดการหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านของบุคลากรในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก เพราะเมื่อมีข้อสนอที่ดีกว่าจากภาคส่วนอื่นๆ เขาก็ต้องไปทำงาน ในที่ที่มีรายได้มากกว่า ทั้งที่ต้นทุนในการฝึกฝนทักษะ รัฐเป็นผู้ลงทุนไว้
เมื่อมีสถานการณ์โรค Covid-19 ในครั้งนี้ เราได้เห็นความทุ่มเท เสียสละ และความมุ่งมั่น ของบุคลากรสาธารณสุขเหล่านี้ ที่เข้าไปต่อสู่ รักษา ป้องกัน อย่างสุดความสามารถ ที่จะทำใก้เกิดความปลอดภัยแก่คนในชาติ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ซึ่งมีการยืนยันแล้วว่า โรคโควิด นอกจากจะคร่าชีวิตผู้ป่วยจำนวนมากแล้ว ยังเป็นโรคที่คร่าชีวิตบุคลากร สธ. มากที่สุดด้วย
การปรับสถานะให้เขามีความมั่นคงในอาชีพการงาน จะทำให้คุณภาพของการบริการผู้ป่วยได้รับการยกระดับอย่างชัดเจน เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ค้างคามานานต้องใช้อำนาจในการบริหารเท่านั้น ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเขาได้
อ่านข่าวเพิ่ม ครม.อนุมัติ 4.5 หมื่น ขรก.สธ. เป็นกำลังใจ เสียสละสู้ COVID-19
บุคคลเหล่านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญชำนาญเฉพาะทาง เป็นสายอาชีพ ที่นำเสนอมานี้ไม่ใช่เป็นการขออัตราเพิ่ม แต่เป็นการ ทุกวันนี้ ทำให้ระบบมีความสมบูรณ์ ทุกวันนี้เราใช้เงินบำรุงจากโรงพยาบาลจ้าง ก็เหมือนกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ ต่อให้ปรับสถานะของเขา ก็ไม่ได้เท่ากับจะทำให้เขามีรายได้เท่ากับที่เขาไปทำงานกับเอกชน แต่อย่างน้อยคำว่าข้าราชการก็จะทำให้เขามีความภาคภูมิใจในวิชาชีพของพวกเขา สามารถทดแทนทางเลือก ที่จะไปทำงานในภาคส่วนอื่น เนื่องจากมีความมั่นคงและมีเกียรติยศ
สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้เป็นการเตรียมความพร้อมของระบบสาธารณสุขของประเทศ ให้เรามีความยั่งยืนมั่นคงมากขึ้นกว่าเดิม
เราจะมีบุคลากรด้านการสาธารณสุข ที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ความพร้อมและศักยภาพ ในการรับมือโรคระบาดใหญ่ในอนาคต และที่สำคัญที่สุด เรากำลังสร้างฐานที่มั่นคงให้กับการสาธารณสุข ที่พร้อมดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้
หลังจากโควิด คนเหล่านี้จะเป็นผู้ดูแล รักษา และป้องกันโรค ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอาย ที่แข็งแรงมั่นคง ยั่งยืน และเป็นประเทศที่มีระบบการสาธารณสุขที่เข้มแข็งอันดับต้นๆของโลกตลอดไป
หากข้อเสนอนี้ ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เราจะสร้างความมั่นคงให้กับบุคลากรด้านการสาธารณสุขได้เป็นจำนวนมาก และเป็นการวางรากฐานและเสริมระบบที่มั่นคงให้กับระบบ สธ. ให้แข็งแกร่งยั่งยืน ด้วยผลลัพธ์ที่ได้มาคือ สธ.มีบุคลากรที่เข้มแข็ง มากด้วยประสบการณ์ และความชำนาญ
ภาพ: กระทรวงสาธารณสุข
โรงพยาบาลไม่ต้องนำเงินบำรุงมาจ้างบุคลากรที่มีความไม่แน่นอน ว่าจะอยู่ได้นานหรือไม่ และสามารถนำเงินเหล่านี้ไปพัฒนาหน่วยบริการ แก้ไขปัญหาการเงิน ตามภารกิจของ ร.พ.ได้ นี่คือสิ่งที่ได้รับกลับมา ซึ่งจะส่งผลให้ความพยายามและความทุ่มเท ที่พวกเขาใส่ลงไป ไม่สูญเปล่า "
ที่สุดแล้วหลังจากฝึกซ้อม 2-3 รอบ เมื่อได้นำเสนอ ก็ผ่านฉลุย ครม.รับหลักการ มอบ สธ.ผนึก กพ.เร่งบรรจุพนักงาน สธ.เป็นข้าราชการด่วน รมต.อนุทิน ยิ้มออก สูตรนี้ ใช้ได้จริง เขียนก่อนพูดจากนี้ พนักงาน สธ.ที่จะได้เป็น ขรก.ต้องกลายเป็นอีกกำลังสำคัญ ในการสู้ Covid-19 #Covid19thailandfact