วันนี้ (8 เม.ย.2563) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำพรรคฝ่ายค้าน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค เสนอแนะให้รัฐบาลเคร่งครัดในการบริหารงบประมาณแผ่นดิน อย่างมีทิศทาง และมียุทธศาสตร์ มีประสิทธิภาพว่า วันนี้ประเทศไทยมีโจทย์ใหญ่สำคัญสองเรื่องคือ วิกฤติไวรัส COVID-19 และวิกฤติเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกครั้งใหญ่ และทุกคนทุกกลุ่มทุกชนชั้นได้รับผลกระทบที่เกิดกว่าจะคาดคิด
นายสมพงษ์กล่าวว่า ผู้นำในแต่ละประเทศทั่วโลกกำลังเข้าสู่บททดสอบสำคัญถึงความสามารถในการบริหารประเทศอย่างวิกฤติ โดยยกตัวอย่างสิงคโปร์ ที่รับมือวิกฤติในการบริหารงบประมาณในประเทศจำนวน 30,000 กว่าล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อนำมากระตุ้นและเตรียมรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบจากการระบาดที่ร้ายแรงของ COVID-19 โดยใช้ 3 นโยบายประสานคือ การเงินการคลัง นโยบายสาธารณะสุขที่สู้กับการระบาดของโรค และนโยบายการช่วยเหลือดูแลหน่วยธุรกิจต่างๆทุกระดับในประเทศ
ผู้นำฝ่ายค้านมองสะท้อนมาถึงประเทศไทยว่า เป็นบททดสอบสำคัญของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ที่จะสามารถนำพาประเทศให้ก้าวข้ามพ้นวิกฤตได้หรือไม่ โดยฝ่ายค้านพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ แต่วันนี้ยังไม่เห็นความชัดเจนของนโยบายสำคัญในด้านการเงินการคลัง ว่าจะมีแผนปรับเปลี่ยนการใช้งบประมาณปี 2563 อย่างไร
นอกจากนี้ยัง นายสมพงษ์ยังแสดงความเป็นห่วงรัฐบาลที่เตรียมออกพระราชกำหนดสำคัญทางการเงิน โดยเฉพาะพระราชกำหนดกู้เงิน ซึ่งหากไม่มีการจัดการที่มีคุณภาพอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการนำเงินเก็บก้อนใหญ่ซึ่งเป็นเงินในอนาคตของประเทศมาใช้อย่างขาดหลักประกัน
ทั้งนี้ก็ได้สนับสนุนให้รัฐบาลนำเงินจำนวนนี้ ไปแก้ไขปัญหาอย่างมีแผน และเป็นระบบครบถ้วน รอบด้านโปร่งใส อันจะเป็นผลต่อการเยียวยาให้กับคนไทยทุกชนชั้นทั้งแผ่นดิน
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญยิ่งของประเทศต้องการเห็นการบริหารประเทศที่แก้ไขปัญหาได้เท่าทันต่อสถานการณ์ และฝ่ายค้านจะติดตามการทำงานของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด