วันนี้ (12 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 3 ของปฏิบัติการเชิงรุก ค้นหากลุ่มเสี่ยง COVID-19 ยังมีประชาชนเดินทางเข้ารับการตรวจตั้งแต่เวลา 08.00น. โดยเจ้าหน้าที่ยังเน้นกลุ่มเป้าหมายหลากหลายอาชีพทั้งกลุ่มที่ทำงานสัมผัสใกล้ชิดกับคนต่างชาติ เช่น พนักงานร้านอาหาร, สถานบันเทิง, ร้านนวด
กลุ่มที่พบเจอผู้คนหลากหลาย เช่น คนขับรถสาธารณะในเมืองพัทยา, แม่บ้าน พนักงานตามโรงแรมต่างๆ และกลุ่มที่เคยไปสถานที่เสี่ยงที่เคยพบผู้ติดเช่น ผับ, บาร์, ห้างสรรพสินค้า และกลุ่มบุคคลใกล้ชิดที่เป็นครอบครัวเดียวกับผู้ติดเชื้อ รวมถึงกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำงานใกล้ชิดผู้ป่วย COVID-19
จัดระบบเว้นห่างทางสังคม ลดเสี่ยง
การตรวจค้นหาในช่วง 3 วันมานี้ เจ้าหน้าที่จัดระบบที่นั่งให้อยู่ห่างกัน เพื่อลดความเสี่ยงและแออัดจากจำนวนคนที่มีจำนวนมาก และใช้วิธีนัดหมายกำหนดช่วงเวลาตรวจที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้ผู้เข้ารับการตรวจเดินทางมารวมตัวกันมากเกินไป โดยกำหนดเฉลี่ยการตรวจไว้ประมาณ 30 คน ต่อ 1 ชั่วโมง และยังใช้โรงแรมแกรนด์ เบลล่า พัทยา เป็นสถานที่ตรวจคัดกรองเพียงแห่งเดียวในเมืองพัทยา เพื่อตรวจให้ครบ 2,000 คน
ขณะที่ผู้เข้ารับการตรวจหลายคน ยินดีมารับการตรวจเพื่อความชัดเจนในตัวเอง และไม่เสียค่าใช้จ่าย ในช่วงเวลาที่ทุกคนต้องประหยัด ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุด เมื่อเวลา 11.25 น. มีผู้รับการตรวจเสร็จแล้ว 59 คน
บ้านห้วยหมอเฒ่า คุมเข้มการเข้าออก
ขณะที่หมู่บ้านห้วยหมอเฒ่า ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ชาวบ้านที่จะเข้าออกถนนในหมู่บ้านคณะกรรมการหมู่บ้านให้เข้าออกเพียงจุดเดียว เพื่อป้องกัน COVID-19 และมีด่านคัดกรองหมู่บ้านตรวจวัดไข้ทุกคนเมื่อผ่านด่าน ถือเป็นมาตรการสำคัญที่ทุกบ้านใน อ.แม่สรวย เฝ้าระวังการระบาด
เย็บหน้ากากอนามัยแจกคนในหมู่บ้าน
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังมีการเย็บหน้ากากผ้าแจกจ่ายให้กับคนในหมู่บ้าน และถวายกับพระสงฆ์ ชาวบ้านบอกที่ผ่านมามีผู้ฝ่าฝืนการคัดกรองและตั้งใจขับรถชนด่านห้ามเข้าในชุมชนและถูกดำเนินคดีตามคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด และกฎของหมู่บ้านถูกตำรวจ สภ.แม่เจดีย์ ดำเนินคดีแล้ว 1 คน โดยถูกปรับถึง 75,000 บาท