การฉลองวันออกบวชในวันอิดิลฟิตริ หรือวันฮารีรายอของชาวไทยมุสลิม เป็นประเพณีร่วมของชาวมุสลิมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การเดินทางกลับบ้านใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ร่วมกินอาหารกับพ่อแม่เป็นประเพณีที่ทำให้มีผู้คนเดินทางกันเป็นจำนวนมากช่วงก่อนวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน เพื่อร่วมฉลองกับครอบครัวในวันอิดิลฟิตริ ไม่ต่างจากคนไทยเดินทางกลับบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ และคนจีนเดินทางกลับบ้านช่วงตรุษจีน
ที่อินโดนีเซียปีที่แล้วมีประชาชนเดินทางกลับบ้านช่วงก่อนวันอิดิลฟิตริประมาณ 20 ล้านคน ซึ่งในภาษาอินโดนีเซียเรียกการเดินทางช่วงนี้ว่า Mudik หรือการเดินทางของผู้คนจำนวนมาก (mass exodus) ปีนี้รัฐบาลอินโดนีเซียได้มีคำสั่งห้ามเดินทางไปแล้วพร้อมกับมีการระดมทหาร ตำรวจและอาสาสมัครพลเรือนกว่า 175,000 คน ตั้งด่านตรวจทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดใหญ่จากการเดินทาง โดยเฉพาะกรุงจาการ์ตาพื้นที่ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 มากที่สุดในประเทศ
ที่มาเลเซีย ดร.ซุลกริฟรี อัล-บากรี รัฐมนตรีกิจการศาสนาอิสลาม แถลงว่า ชาวมุสลิมได้รับคำแนะนำให้อยู่ที่บ้านตนเอง งดการเดินทางเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด COVID-19
“ปีนี้ขอให้งด Balik Kampung (กลับสู่หมู่บ้าน) หรือการเดินทางกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านเกิด เพราะคุณอาจจะนำเชื้อโควิด-19 กลับไปเยี่ยมคนที่คุณรัก”
เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตัน สรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงต่ออายุมาตรการจำกัดเสรีภาพการใช้ชีวิตนอกบ้าน ที่เรียกว่า Movement Control Order ออกไปอีก 2 สัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 12 พ.ค. 63 และยังไม่ได้มีคำสั่งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรห้ามเดินทางก่อนวันอิดิลฟิตริซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 24 พ.ค.2563 ณ ขณะนี้มีเพียงแต่คำแถลงของรัฐมนตรีกิจการศาสนาอิสลามที่ใช้คำว่า “แนะนำให้อยู่บ้าน” (Muslim are advised to stay put and stay at home)
By : อนุพงษ์ ไชยฤทธิ์