กรณีมีการนำเสนอข่าวข้าราชการนายตำรวจระดับสูงใน จ.อุบลราชธานี ไม่พอใจเจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรองที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี โดยตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ปฏิบัติงาน
วันนี้ (27 เม.ย.2563) พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เรียกตัว พล.ต.ต.รณกร ฤทธิรงค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรอุบลราชธานี ให้มาช่วยงานราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (27 เม.ย.) เพื่อไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับการตรวจสอบ
ภายหลังจากที่มีประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ โดยอ้างว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในจ.อุบลราชธานี ที่เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานคร มาที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรอง พร้อมตำหนิเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจภายในสนามบินอุบลราชธานี
นอกจากนี้ ยังแต่งตั้ง พล.ต.ต.ธเนศ เทพสุด ผู้บังคับการประจำตำรวจภูธรภาค 3 ไปรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุบลราชธานี เป็นการ ชั่วคราวก่อน ขณะเดียวกัน ได้แต่งตั้ง พล.ต.ต.ภาณุ บูรณศิริ รองผู้บัญชา การตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจ เจริญ อีกทั้งยังเป็นจเรตำรวจภูธรภาค 3 ให้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนจะมีข้อมูลหลักฐานอะไรนั้น ต้องให้ผู้ที่ไปตรวจสอบ ทำหน้าที่ก่อน เพราะตอนนี้เป็นเพียงข่าว ยังต้องรวบรวมพยานและหลักฐานอื่นๆ ประกอบอย่างครบถ้วน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
หากพบว่า มีการกระทำความผิดจริงตามที่เป็นข่าว ก็ต้องลงโทษตามกฎหมายไม่มีข้อยกเว้นแน่นอน
ส่วนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของ พล.ต.ต.รณกร ซึ่งตามปกติ ที่ลานจอดรถภายในกองบังคับการฯ พล.ต.ต.รณกร จะนำรถมาจอดในช่องที่เขียนนามเรียกขานว่า อุบล 1 แต่วันนี้ ไม่พบรถประจำตำแหน่งของ พล.ต.ต.รณกร จอดในช่องจอดรถ แต่อย่างใด และเมื่อตรวจสอบที่ห้องทำงาน พบเพียงตำรวจชั้นประทวน มีหน้าที่ตรวจสอบเอกสารเข้าออก 2 นาย แต่ไม่พบตัว พล.ต.ต.รณกร
จากการสอบถามทราบว่า พล.ต.ต.รณกร ได้เดินทางไปรายงานตัวที่ศูนย์ ศปก.ตำรวจภูธรภาค 3 ตามคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจภาค 3 จังหวัดนครราชสีมา ที่ 706/2563 ลงวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา
วิจารณ์หนัก-นายตำรวจตำหนิเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีการวิจารณ์ในพื้นที่ โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา มีข้าราชการชายระดับสูงใน จ.อุบลราชธานี เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ เมื่อเครื่องบินถึงสนามบินอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ภายในห้องรับสัมภาระ เพื่อคัดแยกสำหรับผู้ที่มีอุณหภูมิสูงผิดปกติ ก่อนออกไปที่ห้องโถงนั่งทำการกรอกเอกสาร ตามแบบ ต.8 ซึ่งเป็นเอกสารคำถามรายละเอียดบุคคล สถานที่เดินทาง และอื่นๆ และแสกน QR Code
โดยผู้เดินทางเข้า จ.อุบลราชธานี ต้องลงทะเบียน พร้อมกรอกข้อมูล แต่มีการอ้างว่า ข้าราชการคนดังกล่าวแสดงอาการไม่พอใจ พร้อมตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่หญิงชุดตรวจคัดกรอง ถึงกับต้องยืนตัวสั่นด้วยความกลัว
ต่อมาวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีโทรศัพท์ไปที่สำนักงานควบคุมโรค เขต 10 อุบลราชธานี ให้ผู้ที่รับผิดชอบไปพบและชี้แจงเรื่องนี้กับข้าราชการคนดังกล่าวที่สำนักงาน แต่ได้รับการปฏิเสธจากหัวหน้า เนื่องจากเห็นว่า เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานได้อย่างเข้มข้น ไม่เลือกปฏิบัติ จึงส่งตัวแทนไป ส่วนเจ้าหน้าที่หญิงที่ถูกตำหนิได้รับแจ้งว่าไม่กล้ามาทำงาน
สำหรับ พล.ต.ต.รณกร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นนายตำรวจที่ทำงานขยันขันแข็ง พูดจาโผงพาง ตรงไปตรงมา มักตระเวนตรวจตราความเรียบร้อยตามโรงพักทั้ง 25 อำเภอ ด้วยตัวเอง ทำให้ผู้บังคับบัญชาตามโรงพักต่างๆ ต้องตื่นตัวอยู่เสมอ และบางครั้ง สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งต้องอยู่ประจำสถานีตำรวจตลอดเวลา